นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า เตรียมเสนอแผนปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้ม(LPG) เป็นสองราคาให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ(กพช.) พิจารณาในวันที่ 13 พ.ย.นี้ โดยเป็นการทยอยปรับขึ้นราคา ซึ่งขณะนี้ราคา LPG ในตลาดโลกปรับลดลงมาอยู่ที่ตันละ 500 เหรียญสหรัฐ จากช่วงก่อนที่ปรับขึ้นไปถึง 900 เหรียญสหรัฐ โดยปัจจุบันส่วนต่างราคาที่จะต้องปรับขึ้นอยู่ประมาณไม่เกิน 8 บาทต่อกิโลกรัม
"ราคาก๊าซแอลพีจีที่จะปรับเป็นสองราคา จะตรึงราคาก๊าซหุงต้มในส่วนของภาคครัวเรือนและในส่วนของรถแท๊กซี่ไว้ และจะปรับขึ้นในส่วนของภาคขนส่งและอุตสาหกรรม โดยจะปรับไม่ถึง 8 บาทต่อกิโลกรัม เพราะสูงเกินไป" นพ.วรรณรัตน์ กล่าว
โดยกระทรวงพลังงานได้เตรียมมาตรการรองรับการใช้ที่จะเพิ่มขึ้นในภาคขนส่งและภาคครัวเรือน ซึ่งจะปรับเพิ่มปริมาณสำรองก๊าซแอลพีจีเป็น 1% ของปริมาณการค้าทั้งหมดของปี จากเดิมที่กำหนดปริมาณสำรองเพียง 0.5% เพื่อให้มีปริมาณเพียงพอต่อการใช้ในอนาคต และป้องกันปัญหาการขาดแคลนก๊าซ LPG ในประเทศ
รมว.พลังงาน กล่าวว่า จะเสนอ กพช.ตั้งคณะกรรมการ 5 ชุด ขึ้นมาดูแลการปรับโครงสร้างราคาก๊าซ LPG เช่น คณะกรรมการป้องกันและตรวจสอบการลักลอบนำก๊าซ LPG ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน, คณะกรรมการตรวจสอบการใช้ก๊าซ LPG ผิดประเภท เพื่อมาดูแลเรื่องการลักลอบส่งออก เป็นต้น
สำหรับในเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ คาดว่า จะมีการนำเข้าก๊าซ LPG ประมาณเดือนละ 60,000 ตัน ซึ่งต่ำกว่าประมาณการเดิมที่คาดว่าจะนำเข้าประมาณเดือนละ 80,000 ตัน เนื่องจากการใช้ลดลง โดยในส่วนของภาคขนส่งการใช้เริ่มชะลอตัวลงตามราคาน้ำมันที่ลดลง ส่วนภาคอุตสาหกรรมและปิโตรเคมีก็ลดลง เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวลง
โดยเดือน ต.ค.ที่ผ่านมามีการนำเข้าก๊าซ LPG จำนวน 80,000 ตัน เมื่อรวมภาระทั้งหมดที่ บมจ.ปตท.(PTT) ต้องชดเชยราคาก๊าซจากการนำเข้าไปแล้ว 7,300 ล้านบาท ซึ่งจะมีการจ่ายคืนเมื่อกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีกำไรแล้ว
รมว.พลังงาน ยังปฏิเสธข่าวการนำเงินกองทุนทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปชดเชยการซื้อผลปาล์มดิบที่ล้นตลาด เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และผิดวัตถุประสงค์ของการใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ อีกทั้งกองทุนน้ำมันฯ ยังมีฐานะติดลบอยู่