นักวิเคราะห์จากหลายสำนักคาดการณ์ในทางเดียวกันว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สองในที่ประชุมวันนี้ หลังจากภาวะเศรษฐกิจในภูมิภาคย่ำแย่ที่สุดในรอบ 15 ปี
"ถึงเวลาแล้วที่ธนาคารกลางต้องใช้มาตรการรุนแรง" นักวิเคราะห์จากบีเอ็นพี พาริบาส์ในลอนดอนกล่าว "ขณะนี้เศรษฐกิจกำลังเผชิญช่วงขาลงที่อย่างหนัก ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะร่วงลงต่อเนื่องอีกเป็นเวลานาน"
นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรปจะมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% จาก 3.75% เป็น 3.25% หลังจากที่ได้ปรับลดดอกเบี้ยพร้อมกับธนาคารกลางทั่วโลกไปเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานายฌอง คล้อด ทริเชต์ ประธาน ECB ออกมาส่งสัญญาณหั่นดอกเบี้ยลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะชะลอตัว
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ECB จะลดดอกเบี้ยลงหนักที่สุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 10 ปีมาอยู่ที่ 2.5% ภายในเดือนเม.ย.ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ขณะที่เศรษฐกิจของ 15 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรร่วมกันได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วและจะเผชิญปัญหาที่เงินเฟ้อพุ่งสูงแต่เศรษฐกิจตกต่ำในปี 2552
ด้านนักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ป อิงค์กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกที่ซบเซายาวนานจะบีบคั้นให้เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายกระหน่ำลดดอกเบี้ยลงถึง 1% หลังจากที่ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งในยุโรปยังคงลังเลใจที่จะปล่อยเงินกู้ให้กันและกันแม้ว่าธนาคารจะอัดฉีดสภาพคล่องและออกมาตรการอุ้มแบงก์พาณิชย์ให้รอดพ้นจากภาวะล้มละลายไปแล้วก็ตาม
ขณะเดียวกันคณะกรรมาธิการยุโรปคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยุโรปจะหดตัวลง 0.1% ในปีหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 2536 และกล่าวอีกว่าเศรษฐกิจจะทรุดตัวลงในไตรมาสที่ 3 และ 4 หลังจากที่ภาคอุตสาหกรรมและการบริการซบเซาเป็นประวัติการณ์ในเดือนต.ค. ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริหารและผู้บริโภคดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปี