โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทรถรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก คาดการณ์ว่า กำไรของบริษัทจะร่วงลงต่ำสุดในรอบอย่างน้อย 18 ปี เนื่องจากวิกฤตการเงินโลกส่งผลกระทบให้ความต้องการรถร่วงลง ประกอบกับเงินเยนที่แข็งค่าทำให้มูลค่ายอดขายรถ ในต่างประเทศลดลงด้วยเช่นกัน
บลูมเบิร์กรายงานว่า โตโยต้าระบุว่า กำไรสุทธิของบริษัทมีแนวโน้มว่าจะอยู่ที่ 5.50 แสนล้านเยน หรือ 5.6 พันล้านดอลลาร์สำหรับปีงบการเงินที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มี.ค. เมื่อเปรียบเทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 1.25 ล้านล้านเยน โดยการคาดการณ์ที่ได้จัดทำขึ้นใหม่นั้นคาดว่า กำไรจะลดลง 68% จากระดับปีที่แล้วที่ 1.72 ล้านล้านเยน
นายคัตสึอากิ วาตานาเบ้ ประธานโตโยต้า ได้ลดเป้าหมายตัวเลขกำไรของบริษัทลง เนื่องจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น และวิกฤตสินเชื่อที่ส่งผลกระทบยอดขายรถทั่วประเทศสหรัฐให้ดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2536 ส่งผลให้โตโยต้า ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถรายใหญ่สุดของญี่ปุ่นคาดการณ์ว่าผลกำไรจะลดลงมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้มาก ตามรอยคู่แข่งระดับรองอย่างฮอนด้า มอเตอร์ และนิสสัน มอเตอร์
ฮิโตชิ ยามาโมโตะ ซีอีโอของฟอร์ทิส แอสเส็ท เมเนจเมนท์ เจแปน กล่าวว่า สำหรับโตโยต้าและบริษัทรถรายอื่นๆแล้ว เศรษฐกิจสหรัฐที่ย่ำแย่ส่งผลกระทบถึงทุกฝ่าย บริษัทรถคงจะต้องแบกรับผลกระทบต่อไปตราบเท่าที่บริษัทต้องพึ่งพาและทำกำไรในตลาดรถในอเมริกาเหนือ
โตโยต้าได้ลดเป้าหมายกำไรจากการปฏิบัติการลง 63% เหลือ 6 แสนล้านเยน และยังได้ลดคาดการณ์ยอดขายรถลง 5.7% เหลือ 8.24 ล้านคัน จากระดับ 8.74 ล้านคัน
ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ โตโยต้าขาดทุนจากการปฏิบัติการถึง 3.46 หมื่นล้านเยนในอเมริกาเหนือ หลังจากที่ได้มีการปรับมูลค่าสว็อปดอกเบี้ย