นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เรียกสมาคมธนาคารไทยหารือขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์ในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้แก่ภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs)ให้ง่ายขึ้น หากพบว่าผู้ประกอบการมีหลักประกันในการดำเนินธุรกิจที่เพียงพอ เพื่อช่วยเหลือสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการรายกลางและรายย่อย
"การปล่อยสินเชื่อรายย่อย ท่าน(ธนาคารพาณิชย์)บอกว่าไม่เดือดร้อนมาก ปัญหาคือต้องระมัดระวัง การหมุนเวียนของสินเชื่อถดถอยลงไป ซึ่งเราเข้าใจ เราเห็นใจ แต่ขอให้อยู่จุดกึ่งกลางได้หรือไม่ อย่าสะกัดกั้นทีเดียว (ธุรกิจ)รายไม่ใหญ่รายย่อย หากมีหลักฐาน มีงานทำ มีความสามารถ ให้ช่วยปล่อย(สินเชื่อ)" นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังหารือร่วมกับผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ 16 แห่ง เพื่อหาแนวทางรองรับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการลุกลามของวิกฤติทางการเงินสหรัฐฯ
นายสมชาย กล่าวว่า ผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ต่างยืนยันว่าสถานะทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบโดยรวมไม่มีความน่าเป็นห่วงแต่อย่างใด
นางศศิธร พงศธร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์เพื่อรายย่อย กล่าวว่า สมาคมธนาคารไทยได้สะท้อนมุมมองต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบ และมีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลหลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการเงิน เนื่องจากกฎหมายบางเรื่องจำกัดการดำเนินธุรกิจของสถาบันการเงินจากเดิมที่เคยให้การสนับสนุน
"กฎหมายบางฉบับรัฐบาลควรแก้ไขกฎหมายให้สะท้อนความเป็นจริงมากขึ้น โดยเฉพาะ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย และ พ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝาก" นางศศิธร กล่าว
กรรมการผู้จัดการธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ฯ ยกตัวอย่างว่า พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย ฉบับเดิมสนับสนุนเรื่องการเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคารพาณิชย์ในช่วงภาวะฉุกเฉิน แต่เมื่อมีกฎหมายฉบับใหม่ออกมากลับมีข้อจำกัดในเรื่องนี้ และเมื่อมีการจัดตั้งสถาบันประกันเงินฝาก ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝาก ส่งผลให้กองทุนฟื้นฟูฯ ต้องยุติบทบาทและยุบทิ้งไป แต่สถาบันประกันเงินฝากยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ในการดูแลกรณีเกิดภาวะฉุกเฉิน
"กระทรวงการคลังควรที่จะกลับไปพิจารณาแก้ไข"นางศศิธร กล่าว
นางศศิธร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้สั่งการหรือขอความร่วมมือเรื่องใดจากสมาคมธนาคารไทย เพียงแต่รับฟังความเห็นเท่านั้น และแจ้งให้ทราบว่าหากสถาบันการเงินรายใดยังมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมก็สามารถแจ้งผ่านมายังเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้