นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางการสหรัฐได้ประกาศต่ออายุโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร(GSP)ที่จะหมดอายุในวันที่ 31 ธ.ค.51 ออกไปอีก 1 ปี ถึง 31 ธ.ค.52 โดยไม่เปลี่ยนแปลงกฏเกณฑ์การให้สิทธิ ทั้งนี้สินค้าที่ได้รับสิทธิ GSP จากสหรัฐฯ จะได้รับยกเว้นภาษีอากรนำเข้าทั้งหมด
ปัจจุบันมีสินค้าไทยได้รับสิทธิ GSP ประมาณ 3,400 รายการ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุตสาหกรรม และสินค้าเกษตรกรรมบางรายการ เช่น อัญมณีและเครื่องประดับ, ผลิตภัณฑ์ยาง, เครื่องใช้ไฟฟ้า, อาหารปรุงแต่ง, ชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ, เครื่องรับวิทยุโทรศัพท์ และแผงควบคุมวงจรไฟฟ้า เป็นต้น
สินค้าที่ได้รับสิทธิ GSP จะถูกจำกัดเพดานการนำเข้า โดยสินค้าของประเทศใดประเทศหนึ่งจะถูกระงับสิทธิ GSP หากมูลค่าการนำเข้าสหรัฐสูงเกินเพดานระดับใดระดับหนึ่ง คือ มีส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐ ตั้งแต่ 50% ขึ้นไป หรือมีมูลค่านำเข้าสูงเกินเพดานที่กำหนดไว้ โดยปี 51 เท่ากับ 135 ล้านดอลลาร์ฯ ส่วนสินค้าที่มีมูลค่านำเข้าสูงเกินเพดานปีใดจะถูกสหรัฐฯ ตัดสิทธิ GSP ในวันที่ 1 ก.ค.ของปีถัดไป
สำหรับช่วง 6 เดือนแรก(ม.ค.-มิ.ย.) ของปีนี้ ไทยใช้สิทธิส่งออกสินค้าภายใต้ GSP สหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่า 1,765 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงสุดเป็นอันดับ 3 รองจาก แองโกลา ที่ใช้สิทธิส่งออก 3,551 ล้านเหรียญสหรัฐ และอินเดีย 1,955 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สินค้าไทยใช้สิทธิ GSP มากที่สุด เช่น เครื่องรูปพรรณอื่นๆ ทำด้วยโลหะเงินมีมูลค่าเกิน 18 เหรียญสหรัฐ/โหล, ยางเรเดียล, ชุดสายไฟที่ใช้ในรถยนต์, อาหารปรุงแต่ง, ชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ, ถุงมือยาง, เครื่องสุขภัณฑ์ และเตาอบไมโครเวฟ เป็นต้น