ดีบีเอส กรุ๊ป โฮลดิงส์ ธนาคารสัญชาติสิงคโปร์รายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เตรียมปลดพนักงานเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 หลังกำไรดิ่งสุดในรอบกว่า 2 ปี
ซีอีโอ ริชาร์ด สแตนลีย์ กล่าวว่า ทางธนาคารเตรียมปลดพนักงาน 900 ตำแหน่ง หรือคิดเป็น 6% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อทุกระดับขององค์กร ทั้งสาขาสิงคโปร์และฮ่องกง
"เราต้องลดขนาดขององค์กรลง" นายสแตนลีย์ กล่าว "นี่เป็นการตัดสินใจที่สร้างความเจ็บปวดให้กับเรา แต่เราจำเป็นต้องทำในสภาพเศรษฐกิจที่ยากลำบากเช่นนี้"
เศรษฐกิจสิงคโปร์กำลังอยู่ในภาวะถดถอย ซ้ำร้ายกว่านั้น บริษัท ลาสเวกัส แซนด์ คอร์ป ซึ่งกู้เงินจากดีบีเอสเพื่อสร้างคาสิโน ก็ออกมายอมรับว่าทางบริษัทอาจไม่สามารถชำระหนี้คืนหากไม่สามารถระดมทุนเพิ่มเติมได้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 14.28 น.ตามเวลาท้องถิ่น หุ้นดีบีเอสปรับตัวลดลง 1.4% หลังร่วงลงกว่า 8.8% ในช่วงเช้า ซึ่งถือว่าร่วงหนักสุดระหว่างวันในรอบกว่า 7 ปี
"ข่าวร้ายจากลาสเวกัสแซนด์ส่งผลให้หุ้นดีบีเอสปรับตัวลดลง หุ้นดีบีเอสมีสิทธิ์ร่วงแตะระดับต่ำสุดของเดือนต.ค.ที่ 8.87 ดอลลาร์สิงคโปร์" แดฟเน่ ร็อธ หัวหน้าฝ่ายวิจัยตลาดหลักทรัพย์ของ ABN Amro Private Bank กล่าว
ทั้งนี้ สถาบันการเงินทั่วโลกปลดพนักงานไปแล้วเกือบ 150,000 คนนับตั้งแต่เกิดวิกฤตสินเชื่อจนถึงปัจจุบัน