ไอซ์แลนด์อาจได้รับการช่วยเหลือทางการเงินเป็นมูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และหลายประเทศในยุโรป หลังจากที่การล่มสลายของภาคธนาคารไอซ์แลนด์ได้ส่งผลกระทบให้ตลาดปริวรรตเงินตราของประเทศเข้าสู่ภาวะชะงักงัน
ประเทศในยุโรปที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือไอร์แลนด์ในครั้งนี้ได้แก่ กลุ่มประเทศแถบสแกนดิเวียน สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ และโปแลนด์ โดยกระทรวงการคลังของโปแลนด์ระบุในแถลงการณ์ว่าประเทศเหล่านี้จะร่วมกันอัดฉีดเงินประมาณ 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ก่อนหน้านี้ ไอเอ็มเอฟเปิดเผยว่า ทางกองทุนจะปล่อยเงินกู้ให้กับไอซ์แลนด์เป็นวงเงิน 2.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่นอร์เวย์เสนอเงินจำนวน 500 ล้านยูโร (635 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และหมู่เกาะฟาโรห์จะให้เงินช่วยเหลือ 300 ล้านโครน (51 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) อย่างไรก็ดี ทางไอเอ็มเอฟได้ขอเลื่อนการพิจารณาอนุมัติเงินกู้ดังกล่าวออกไปเป็นวันที่ 10 พ.ย. จากเดิมที่มีกำหนดพิจารณาในวันที่ 5 พ.ย.
เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางไอซ์แลนด์ได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 18% เพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงิน แม้ว่าทางไอเอ็มเอฟจะเตือนว่า เศรษฐกิจอาจทรุดตัวลงหนักสุดถึง 10% ในปี 2552 ขณะที่การล้มละลายของธนาคารรายใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ทำให้สกุลเงินโครนาอ่อนค่าลงอย่างรุนแรง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าธนาคารกลางไอซ์แลนด์ได้ออกมาคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะเผชิญภาวะถดถอยรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ในเบื้องต้นพร้อมทั้งเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อ โดยชี้ว่าเศรษฐกิจจะหดตัวลง 8.3% ในปีหน้าเมื่อเทียบกับที่ประมาณการณ์ไว้ว่าจะทรุดตัว 2% ขณะที่เงินเฟ้อโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 14.1% เมื่อเทียบกับตัวเลขประมาณการในก่อนหน้านี้ที่ 7.6%