นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลประจำเดือน ต.ค.51 ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 2552 จัดเก็บรายได้สุทธิ 91,987 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 9,529 ล้านบาท คิดเป็น 9.4% และต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 20,708 ล้านบาท หรือ 18.4%
โดยมีสาเหตุจากการจัดเก็บภาษีน้ำมันได้ต่ำกว่าประมาณการ เนื่องจากการปรับลดอัตราภาษีน้ำมันตาม 6 มาตรการ 6 เดือนฝ่าวิกฤติเพื่อคนไทย รวมทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ได้เลื่อนการนำส่งรายได้ แต่หากพิจารณาจากผลการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 9.2% แสดงให้เห็นว่าการบริโภคภาคเอกชนยังมีการขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ หากแยกการจัดเก็บรายได้ตามหน่วยงานสรุปได้ ดังนี้ กรมสรรพากรจัดเก็บได้ 77,939 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 4,824 ล้านบาท หรือ 6.6% และสูงกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 6.4% เนื่องจากจัดเก็บภาษีทุกประเภทได้สูงกว่าประมาณการ ได้แก่ ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 1,389 และ 1,256 ล้านบาท หรือ 9.4% และ 3.1% ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังมีภาษีเงินได้ปิโตรเลียมของบางบริษัทได้มาชำระในเดือนนี้จำนวน 1,756 ล้านบาท
กรมสรรพสามิตจัดเก็บได้ 18,328 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 6,241 ล้านบาท หรือ 25.4% และต่ำกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 20.9% โดยภาษีน้ำมันจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 4,520 ล้านบาท หรือ 70.9% นอกจากนี้ภาษีเบียร์และภาษียาสูบยังจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 1,134 และ 568 ล้านบาท หรือ 23.9% และ 15.4% ตามลำดับ
กรมศุลกากรจัดเก็บได้ 8,699 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยต่ำกว่าประมาณการเพียง 0.6% แต่สูงกว่าเดือนเดียวกันปีก่อน 3.0%
ขณะที่รัฐวิสาหกิจนำส่งรายได้ 4,802 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 7,303 ล้านบาท หรือ 60.3% เนื่องจาก กฟผ.เลื่อนการนำส่งรายได้จากเป้าหมายที่ตั้งไว้จำนวน 7,158 ล้านบาท ส่วนหน่วยงานอื่นนำส่งรายได้ 3,004 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 248 ล้านบาท หรือ 7.6%