ออสเตรเลียได้ประกาศแผนการช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์มูลค่า 6.2 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 4.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์ที่ประสบปัญหาให้พัฒนาเป็นอุตสาหกรรมที่ขยายตัวอย่างยั่งยืนทั้งในเชิงสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจมากกว่าเดิมภายในปี 2563
แผนการช่วยเหลืออุตสาหกรรมยานยนต์ของออสเตรเลียนี้จะมีการจัดเงินอุดหนุน 3.4 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียให้กับบริษัทรถของออสเตรเลีย เพื่อให้สามารถพัฒนาและจำหน่ายยานยนต์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ในระดับต่ำและยังใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทะภาพในช่วง 13 ปีข้างหน้า
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายกรัฐมนตรีเควิน รัดด์ ของออสเตรเลีย กล่าวถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ว่าเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญสำหรับยุทธศาสตร์การลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม และแผนการช่วยเหลือดังกล่าวจะช่วยปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจออสเตรเลียให้สามารถปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ในระดับต่ำ และสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ในอนาคต
นายกฯออสเตรเลียกล่าวว่า ผมไม่เชื่อว่าการผลิตรถเป็นธุรกิจของเมื่อวานนี้ หรือเป็นธุรกิจของชาวเยอรมันและญี่ปุ่นเท่านั้น และยืนยันว่าจะมีการลดภาษียานยนต์ลงเหลือ 5% ซึ่งถือเป็นภาษีที่อยู่ในระดับต่ำที่สุดเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มประเทศผู้ผลิตรถ ออสเตรเลียจะยังคงใช้นโยบายการค้าเสรี เนื่องจากอนาคตอุตสาหกรรมขึ้นอยู่กับนวัตกรรมและการผนึกรวมตัวในระดับโลก ไม่ใช่อุตสาหกรรมที่ใช้โควต้าและภาษีแบบเดิมๆ