นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ตั้งเป้าส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์(เอ็นจีวี) ในภาคขนส่งให้มีสัดส่วนเพิ่มเป็น 30% ภายใน 15 ปี หรือคิดเป็น 28,000 ตัน/วัน จากปัจจุบันที่มีการใช้อยู่ที่ 2,800 ตัน/วัน ซึ่งจะสามารถช่วยประหยัดเงินตราที่จะใช้นำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศได้ถึงปีละ 1.22 แสนล้านบาท ขณะเดียวกันผู้ใช้ก็จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 1.68 แสนล้านบาท/ปี
แม้สถานการณ์ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลง แต่ความต้องการใช้เอ็นจีวียังมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อาจชะลอตัวลงบ้างจากวันละ 300-400 คัน/วัน ในเดือน ก.ค.51 ลงมาอยู่ที่วันละ 170-180 คัน/วันในปัจจุบัน
ส่วนการปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีจาก 8.50 บาท/กก. เป็น 12 บาท/กก.ในปีหน้านั้น ขณะนี้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวน ยังไม่แล้วเสร็จ
ด้าน นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT) กล่าวว่า รัฐบาลควรอนุมัติให้มีการปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุน ซึ่งอาจปรับขึ้นไม่ถึง 12 บาท/กก.เพราะตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) กำหนดราคาไม่เกิน 50% ของราคาน้ำมันดีเซล
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวว่า ในปีหน้ามีความเป็นไปได้ที่จะออกออกหุ้นกู้ในประเทศเป็นหลัก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศมีสภาพคล่องเพียงพอ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนแผนอยู่