สถาบัน Royal Institution of Chartered Surveyors (RICS) ซึ่งเป็นสำนักงานสำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านในอังกฤษร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปีในรอบ 3 เดือนที่สิ้นสุด ณ เดือนต.ค. ขณะที่วิกฤตตลาดสินเชื่อตึงตัวได้กดดันให้ราคาบ้านทั่วประเทศปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15
รายงานดังกล่าวระบุว่า บริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษมียอดขายบ้านเฉลี่ยที่ 10.9 ยูนิตในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการสำรวจข้อมูลในปี 2521 ขณะเดียวกันสัดส่วนราคาบ้านที่ลดลงมีจำนวนสูงกว่าราคาบ้านที่เพิ่มขึ้นถึง 82% ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาบ้านอยู่ในช่วงขาลงมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2550 ทั้งนี้ ราคาบ้านใน 12 เขตที่สำรวจโดย RICS ร่วงลงทั้งหมด โดยมูลค่าบ้านที่ลดลงในภาคเหนือนั้นอยู่ในระดับติดลบ 100 จุด ส่วนราคาบ้านในลอนดอนติดลบ 90 จุด
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอังกฤษได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1.50% สู่ระดับ 3% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่เลวร้ายนับตั้งแต่ต้นปี 2533 โดยเอียน เพอร์รี่ โฆษกของ RICS กล่าวว่า "การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์ที่ผ่านมาอาจช่วยกระตุ้นสถานการณ์ในตลาดให้ดีขึ้นได้ เนื่องจากการที่ผู้ซื้อบ้านขาดเงินจำนองนั้นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซา"
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาและอัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นเป็นปัจจัยที่ทำให้ประชาชนลดการใช้จ่าย ซึ่งส่งผลกระทบให้ยอดค้าปลีกในเดือนต.ค.ร่วงลง 2.2% ต่อปี และเป็นสถิติการปรับตัวลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2548
นอกจากนั้น รายงานที่มีการเปิดเผยในวันนี้ยังบ่งชี้ด้วยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเลวร้าย โดยเอชบีโอเอสเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ราคาบ้านเมื่อเดือนที่ผ่านมาร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เริ่มทำการสำรวจในปี 2526 ที่ระดับ 15% ต่อปี ขณะที่เนชั่นไวด์ บิลดิ้ง โซไซตี้เปิดเผยว่า ราคาบ้านดิ่งลงหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2534
ทั้งนี้ เศรษฐกิจอังกฤษในปีหน้ามีแนวโน้มจะเผชิญวิกฤตเลวร้ายมากที่สุดในบรรดากลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ โดยคณะกรรมาธิการยุโรปคาดว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะตกลง 1% ขณะที่เศรษฐกิจในทวีปยุโรปจะขยับขึ้นเพียง 0.1% และเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 0.5% ส่วนเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะหดตัวลง 0.4% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน