ธนาคารกลางอินโดนีเซียสนับสนุนการรับประกันเงินฝากทั้งหมด หวังเพิ่มความเชื่อมั่นนักลงทุนในภาคการธนาคาร
ฮาร์ตาดิ เอ. ซาร์โนโว รองผู้ว่าการธนาคารกลาง กล่าวว่า แม้นักลงทุนจะยังมีความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในตอนนี้ แต่การรับประกันเงินฝากทั้งหมดจะช่วยให้ธนาคารในประเทศไม่ขาดสภาพคล่อง เนื่องจากเงินไม่ไหลออกนอกประเทศ
ช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเอเชียในปี พ.ศ.2541 เงินจำนวนกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐไหลออกจากอินโดนีเซียสู่สิงคโปร์ และเงินจำนวนดังกล่าวได้รับการประกันเงินฝากแบบเต็มจำนวน (Blanket guarantee)
"การประกันเงินฝากแบบเต็มจำนวนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นนักลงทุนในภาคการธนาคาร" นายซาร์โนโว กล่าวในการประชุมวุฒิสมาชิกส่วนภูมิภาค (DPD) ที่อาคารรัฐสภา
อย่างไรก็ตาม ชุมชนนักธุรกิจเชื่อว่าการรับประกันดังกล่าวไม่สามารถคุ้มครองผู้ที่มีเงินเกิน 2 พันล้านรูเปียะห์ได้ ส่งผลให้ผู้ฝากตัดสินใจฝากเงินในสิงคโปร์ มาเลเซีย และฮ่องกง ซึ่งมีการรับประกันเงินฝากเต็มจำนวนอยู่แล้ว
ความวิตกกังวลที่ว่าเม็ดเงินจะไหลออกนอกประเทศส่งผลให้หอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งอินโดนีเซียเสนอให้ประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุดโดห์โยโน ประกาศใช้มาตรการรับประกันเงินฝาก
อย่างไรก็ตาม รองประธานาธบดียูซูฟ คัลลา ต่อต้านแผนการดังกล่าว โดยกล่าวว่ามาตรการดังกล่าวอาจก่อให้เกิดปัญหามาตรฐานทางจริยธรรม (moral hazard) ในหมู่นายธนาคาร นอกจากนั้นมาตรการเดิมที่ใช้อยู่ก็ครอบคลุมผู้ฝากเงินกว่า 99.7% อยู่แล้ว
ในเดือนส.ค. ยอดเงินฝากทั้งหมดของธนาคารอยู่ที่ 1,528.10 ล้านล้านรูเปียะห์ (ราว 1.38 แสนล้านดอลลาร์) โดยเงินราว 900 ล้านล้านรูเปียะห์ (ราว 8.26 หมื่นล้านดอลลาร์) จากทั้งหมดได้รับการคุ้มครองจากมาตรการที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน