เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป (จีเอ็ม) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์เบอร์หนึ่งของสหรัฐใกล้ที่จะประสบภาวะล้มลายเข้าไปทุกขณะ หลังบริษัทรายงานยอดขายในสหรัฐที่ซบเซา ขณะที่หุ้นของจีเอ็มร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 59 ปี โดยบริษัทกำลังรอดูว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะได้รับเงินช่วยเหลือล็อตใหม่จากรัฐบาลสหรัฐหรือไม่
นักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างคาดการณ์ว่า มีเพียงรัฐบาลเท่านั้นที่จะสามารถช่วยให้จีเอ็มรอดพ้นจากภาวะล้มละลายได้ ขณะที่การปรับโครงสร้างการป้องกันภาวะล้มละลายนั้นอาจไม่มีทางเป็นไปได้ เนื่องจากวิกฤตสินเชื่อได้ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของจีเอ็ม
"กลยุทธ์การปล่อยให้บริษัทล้มละลายไม่ใช่ทางเลือกสำหรับจีเอ็ม" มาร์ก โอลีน นักวิเคราะห์จากฟิทช์ อิงค์ในชิคาโกกล่าว
ทั้งนี้ ชะตากรรมของจีเอ็มที่กำลังเผชิญวิกฤตสภาพคล่องนั้น ทำให้บริษัทเรียกร้องให้รัฐบาลออกเงินกู้หลังจากที่จีเอ็มเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า บริษัทอาจเผชิญปัญหาเงินขาดมือในช่วงสิ้นปีนี้ โดยขณะนี้จีเอ็มมีเงินทั้งสิ้น 1.62 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนก.ย. ซึ่งลดลงจากระดับ 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเดือนมิ.ย. ซึ่งบริษัทจำเป็นต้องหาเงิน 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐมาใช้จ่ายในแต่ละเดือน
"การปล่อยให้บริษัทล้มละลายไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาความหวั่นวิตกเรื่องสภาพคล่องได้ในขณะนี้" เรเน ราชิด-เมเรม โฆษกหญิงของจีเอ็มกล่าว "นั่นไม่ใช่ทางเลือกสำหรับจีเอ็ม แต่จะยิ่งสร้างปัญหามากกว่าแก้ปัญหา"
ยอดขายรถยนต์ของจีเอ็มในสหรัฐร่วงลง 21% ในไตรมาสล่าสุด และดิ่งลง 45% ในเดือนต.ค. ซึ่งริก วาโกเนอร์ ซีอีโอของจีเอ็มกล่าวให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า ยอดขายรถยนต์ของบริษัทอาจได้รับความเสียหายรุนแรงจากการยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ตามกฎหมายล้มละลาย โดยผลพวงที่ตามมาจากภาวะล้มละลายซึ่งไม่สามารถคาดเดาได้นั้นเป็นแรงกระตุ้นให้บริษัทต้องเร่งหาทางเพิ่มสภาพคล่องให้ได้ทุกวิถีทาง