ค่าเงินดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกถดถอยกระตุ้นให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อดอลลาร์ เพราะมองว่าเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.2536 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.2731 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 1.5405 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.5612 ดอลลาร์/ปอนด์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 97.790 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 97.990 เยน/ดอลลาร์ แต่แข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินฟรังค์ที่ 1.1868 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1793 ฟรังค์/ดอลลาร์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลงแตะระดับ 0.5737 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5784 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.6586 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6687 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
เจสซิกา โอเวอร์สัน นักวิเคราะห์จาก MF Global ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า "เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มถดถอยและตลาดหุ้นยังไม่มีแนวโน้มจะฟื้นตัวขึ้นในระยะยาว จึงทำให้ดอลลาร์สหรัฐกลายเป็นสินทรัพย์ที่น่าดึงดูดใจและน่าที่จะเสี่ยงเข้าลงทุนมากที่สุดในระยะนี้"
นักลงทุนจำนวนมากเทขายหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์กและเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐอย่างคึกคัก เนื่องจากความวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยและบริษัทหลายแห่งได้รับผลกระทบจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ทรุดตัวลง รวมถึงร้านกาแฟชื่อดังระดับโลกอย่าง สตาร์บัคส์ โดยล่าสุดมีรายงานว่า โฮเวิร์ด ชูลท์ซ ซีอีโอบริษัท สตาร์บัคส์ ล้มเลิกความหวังที่จะขยายสาขาเพิ่มเติมรวมเป็น 40,000 สาขา หลังผลกำไรของบริษัทร่วงหนักถึง 96% ในไตรมาสสี่
นอกจากนี้ บริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐเตรียมลดจำนวนพนักงาน 3,600 ราย หลังจากบริษัทรายงานยอดขายในสหรัฐที่ซบเซา ขณะที่นักวิเคราะห์จากคาดการณ์ว่า มีเพียงรัฐบาลเท่านั้นที่จะสามารถช่วยให้จีเอ็มรอดพ้นจากภาวะล้มละลายได้ เพราะมองว่าการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อป้องกันภาวะล้มละลายนั้นอาจไม่มีทางเป็นไปได้ เนื่องจากวิกฤตสินเชื่อได้ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของจีเอ็มอย่างรุนแรง บารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้หารือกับประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เกี่ยวกับแนวทางเร่งด่วนในการช่วยเหลือบริษัทผลิตรถยนต์ในสหรัฐ อีกทั้งหารือเรื่องวิกฤตการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์และความจำเป็นการในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่สอง ในระหว่างที่นายโอบามาเดินทางเข้าพบประธานาธิบดีบุชที่ทำเนียบขาวเป็นครั้งแรกภายหลังชนะการเลือกตั้ง