ยอดค้าปลีกจีนเดือนต.ค.โต 22% จากปีก่อน แม้เศรษฐกิจของประเทศชะลอตัว

ข่าวต่างประเทศ Wednesday November 12, 2008 10:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ยอดค้าปลีกของจีนขยายตัวขึ้นใกล้กับอัตราเร็วที่สุดในรอบ 9 ปี แม้ภาวะวิกฤตการเงินโลกและราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ร่วงลงได้ฉุดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคให้ดิ่งลงก็ตาม

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 22% จากปีก่อน แตะระดับ 1.008 ล้านล้านหยวน (1.48 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลงเล็กน้อยจากที่ขยายตัว 23.2% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ 16 รายที่บลูมเบิร์ก นิวส์ สำรวจความคิดเห็นไว้

รัฐบาลจีนประกาศอัดฉีดงบใช้จ่าย 5.86 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับการสร้างสาธารณูปโภคและบ้านราคาถูกให้แก่ประชาชนเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความพยายามเพื่อฟื้นความเชื่อมั่น ขณะที่เศรษฐกิจของจีนซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกกำลังสะดุด โดยภาคส่งออกซึ่งได้รับผลกระทบจากความต้องการในต่างประเทศที่ลดลง รวมถึงยอดขายอสังหาริมทรัพย์ที่ร่วงลงได้กดดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งขณะนี้ได้ชะลอตัวลงที่ระดับช้าสุดในรอบกว่า 5 ปีแล้ว

อาร์เธอร์ โครเบร์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Dragonomics Advisory Services Ltd. ในกรุงปักกิ่งกล่าวว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาลดังกล่าวส่งสัญญาณให้ประชาชนใช้จ่ายต่อไปได้ และการบริโภคภายในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นจะช่วยพยุงอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงหลายเดือนข้างหน้า

นอกจากนี้ ค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นก็เป็นปัจจัยสนับสนุนการใช้จ่ายอีกทางหนึ่ง โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2551 รายได้สุทธิที่ใช้จ่ายได้หลังปรับตามอัตราเงินเฟ้อ (disposable income) ในเขตเมือง เพิ่มขึ้น 7.5% จากปีก่อน ส่วนในเขตชนบทพุ่งขึ้น 11%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ