ผลสำรวจชี้ CEO ในสหรัฐอยากให้มีการจัดระเบียบบริษัทจัดเรทติ้ง-ยกเลิกคำสั่งห้ามทำช็อตเซลล์

ข่าวต่างประเทศ Wednesday November 12, 2008 11:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผลสำรวจความคิดเห็นของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ในสหรัฐ ซึ่งจัดทำโดยบริษัทกฎหมาย Allen & Overy LLP บ่งชี้ว่า กว่า 75% ของซีอีโอที่ตอบรับการสำรวจเห็นพ้องต้องกันว่าควรมีการจัดระเบียบบริษัทจัดอันดับเครดิต

ซีอีโอที่ตอบรับการสำรวจซึ่งส่วนใหญ่ทำงานให้กับวาณิชธนกิจในสหรัฐระบุว่า ขณะที่หลายฝ่ายมองว่ากลุ่มเฮดจ์ฟันด์ควรให้ความร่วมมือกับบริษัทจัดอันดับเครดิตด้วยการยอมรับการตรวจสอบมากขึ้นนั้น ก็ควรมีการยกเลิกคำสั่งห้ามทำช็อตเซลล์ทั่วโลกด้วย เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่กลุ่มเฮดจ์ฟันด์

วุฒิสมาชิกของสหรัฐได้กล่าวหาสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศรายใหญ่ อาทิ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส และฟิทช์ เรทติ้งส์ ว่า สถาบันจัดอันดับเหล่านี้มีผลประโยชน์ทับซ้อนและปิดบังสถานะที่แท้จริงของบริษัทปล่อยกู้จำนอง จนเป็นเหตุให้กิดภาวะผันผวนในตลาดปล่อยกู้จำนองและสร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุนทั่วโลก

ทั้งนี้ มูดีส์, เอสแอนด์พี และฟิทช์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงเมื่อผู้บริหารของสถาบันจัดอันดับทั้ง 3 แห่งออกมายอมรับว่า ทางสถาบันไม่ได้ส่งสัญญาณเตือนนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงของตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (mortgage-Backed Securities หรือ MBS) ซึ่งตราสารหนี้เหล่านี้มีมูลค่าถดถอยลงเนื่องจากจำนวนบริษัทปล่อยกู้จำนองที่ประสบปัญหามีมากขึ้น โดยเฉพาะบริษัทปล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพรม์)

การสำรวจความเห็นของซีอีโอมีขึ้นก่อนที่กลุ่มผู้นำกลุ่ม G20 และกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่จะประชุมร่วมกันที่กรุงวอชิงตันในวันเสาร์ เพื่อพิจารณามาตรการต่างๆ รวมถึงการกำหนดมาตรฐานเงินทุนของธนาคารและกฎข้อบังคับด้านบัญชี เพื่อปกป้องเศรษฐกิจโลกไม่ให้เกิดภาวะถดถอยเหมือนกับในช่วง Great Depression

วิม เดจองห์ กรรมการผู้จัดการบริษัทกฎหมาย Allen & Overy LLP กล่าวว่า "เราเกรงว่าการปิดบังข้อมูลไม่ให้นักลงทุนในตลาดรับรู้ รวมถึงภาวะเข้มข้นทางการเมือง จะส่งผลกระทบต่อตลาด แทนที่จะเสริมสร้างตลาดให้ทำงานตามกลไกอย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคง"

นอกจากนี้ ผลสำรวจความคิดเห็นของซีอีโอระบุว่า "ซีอีโอ 79% กล่าวว่า ควรมีการปรับโครงสร้างหรือผนวกรวมคณะกรรมการกำกับดูแลด้านการเงิน รวมถึงจ่ายอัตราเงินเดือนที่สูงขึ้นให้กับคณะกรรมการเหล่านี้ หรือรับสมัครเจ้าหน้าที่กำกับดูแลด้านการเงินที่มีคุณภาพสูงเพื่อรับมือกับงานด้านตลาดการเงินที่มีความทันสมัยและซับซ้อนมากขึ้น" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ