ราคาเหล็กตลาดโลกร่วงทำผู้ประกอบการในปท.ขาดทุนสต็อกอ่วมกว่าหมื่นลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 12, 2008 13:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ในฐานะประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก กล่าวว่า ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยทำให้ความต้องการใช้เหล็กทั่วโลกลดลง ส่งผลให้ราคาเหล็กร่วงลงรวดเร็วในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ประเมินเบื้องต้นทั้งกระบวนการอุตสาหกรรมเหล็กที่ได้สต็อกไว้มีความเสียหายแล้วกว่า 10,000 ล้านบาทจากปริมาณความต้องการใช้เหล็กในประเทศประมาณ 6-7 ล้านตันต่อปี โดยระดับความเสียหายจะมากน้อยต่างกันตามสต็อกเหล็กแต่ละโรงงาน

ขณะนี้ผู้ประกอบการเหล็กโดยเฉพาะรายที่มีสต็อกมากเสียหายจากราคาเหล็กที่ลดลงอย่างรุนแรง เพราะส่วนใหญ่จะมีสต็อกเหล็กเดิมที่มีราคาสูง โดยเหล็กเส้นที่เคยมีราคาขายกว่า 30 บาทต่อกิโลกรัมลดลงเหลือประมาณ 17 บาทต่อกิโลกรัม

ปกติในแต่ละเดือนจะมียอดขายเหล็กเส้นราว 500,000 ตัน แต่ขณะนี้ลดลงเพราะผู้ใช้เหล็กได้ใช้สต็อกที่มีอยู่เดิม ด้านเศษเหล็กราคาก็ปรับลดลงอย่างมาก โดยประเทศไทยมีการใช้เศษเหล็กปีละ 4 ล้านตัน นำเข้า 1.5 ล้านตัน ราคาเศษเหล็กปรับลดลงอย่างรุนแรงจาก 500-600 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เหลือ 200 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ดังนั้นความเสียหายจึงเกิดขึ้นแล้วกับอุตสาหกรรมเหล็กและอุตสาหกรรมอื่นๆ

นายพยุงศักดิ์ เรียกร้องให้รัฐบาลควรกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ เพื่อให้เกิดความต้องการใช้เหล็กและสินค้าอื่นๆ ภายในประเทศ เพราะขณะนี้แรงงานในอุตสาหกรรมเหล็กประมาณ 100,000 คน ได้ลดการทำงานล่วงเวลาแล้วเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะตลาด และยอมรับว่ากำลังการผลิตขณะนี้อยู่ในระดับ 50-70% ขึ้นอยู่แต่ละโรงงาน โรงงานใดมีสต็อกเหล็กราคาสูงน้อยก็จะทำธุรกิจคล่องตัวกว่าและได้รับผลกระทบไม่มาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ