บริษัทเอกชนกว่า 300 แห่งในสหรัฐเรียกร้องให้สภาคองเกรสระงับการใช้มาตรการบังคับให้บริษัทต่างๆจ่ายเงินเพิ่มเติมเข้าสู่กองทุนบำนาญ เนื่องจากมาตรการดังกล่าวอาจกดดันให้บริษัทต้องปลดพนักงาน
ไฟเซอร์, โบอิ้ง, ไครซ์เลอร์, เวอไรซอน คอมมิวนิเคชั่นส์, คราฟท์ ฟู้ด และ ซิกน่า เป็นตัวอย่างบริษัทที่ร่วมกันยื่นจดหมายต่อสภานิติบัญญัติ ซึ่งระบุว่าสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้สินทรัพย์ในกองทุนบำนาญของแต่ละบริษัทมีมูลค่าลดลง ทำให้หลายบริษัทต้องจ่ายเงินเพิ่มเติมจำนวนมหาศาลให้ครบตามข้อกำหนดของสภาครองเกรส จนกดดันให้บริษัทอาจต้องลดจำนวนพนักงานเพื่อรับมือกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น จึงขอให้สภานิติบัญญัติระงับการใช้มาตรการดังกล่าว
มาตรการดังกล่าวเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ช่วงต้นปี และจำนวนเงินที่ต้องจ่ายให้กับกองทุนเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ โดยบริษัทใดที่ไม่สามารถทำตามข้อกำหนดได้จะต้องรับโทษตามกฎหมาย
ในขณะเดียวกัน สมาชิกสภาคองเกรสของพรรคเดโมแครทกำลังเรียกร้องให้ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช หนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เน้นให้ความช่วยเหลือรัฐบาลท้องถิ่น การให้ความช่วยเหลือและแจกแสตมป์แลกอาหารให้กับผู้ว่างงาน และการลงทุนในสาธารณูปโภคพื้นฐาน ด้านนางแนนซี่ เพโลซี่ โฆษกสภาผู้แทนราษฎรก็เรียกร้องให้รัฐบาลให้ความช่วยเหลือกับบริษัทผลิตรถยนต์ในประเทศด้วย สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน