นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะยกเลิกการยื่นซองประมูลข้าวเปลือกนาปรังปี 51 จำนวน 1 ล้านตัน ตามที่เอกชน 36 ราย ได้ยื่นประมูลและเปิดซองไปเมื่อวันที่ 10 พ.ย.เนื่องจากเอกชนเสนอราคาต่ำกว่าความเป็นจริงที่เฉลี่ย 14,000 บาท/ตัน ซึ่งเป็นราคาที่เท่ากับภาครัฐรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังโดยยังไม่ได้รวมค่าแปรสภาพ ตลอดจนค่าเก็บรักษาและอื่นๆ ที่มีต้นทุนรวมแล้วอีก 758 บาท/ตัน
"ข้อเสนอที่เอกชนเสนอมาเพียง 14,000 บาทต่อตัน รัฐบาลรับไม่ได้ เพราะขาดทุนมาก ขณะนี้ข้าวเปลือกนาปรังแปรสภาพเป็นข้าวสารเกือบหมดแล้ว จึงมีนโยบายจะยังไม่นำข้าวนาปรังที่แปรสภาพเป็นข้าวสารเปิดประมูลแต่อย่างใด" รมว.พาณิชย์ กล่าว
ส่วนประมูลข้าวสต็อกเก่าของรัฐตั้งแต่ปี 47 ประมาณ 2.1 ล้านตันนั้น คาดว่าจะประกาศรายชื่อผู้เสนอราคาได้หลังจากมีการต่อรองราคาใหม่ได้ภายในสัปดาห์นี้
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการเปิดทางให้เอกชนที่สนใจซื้อข้าวภาครัฐหลังจากรัฐบาลยังไม่นำข้าวนาปรังออกมาประมูลนั้น กระทรวงฯ จะเสนอคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.)ให้พิจารณาในสัปดาห์หน้า เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ส่งออกที่สนใจและมีความต้องการข้าวเพื่อการส่งออกเสนอราคาและยื่นซองประมูลข้าวเปลือกนาปีฤดูกาลผลิต 51/52 แทน
ผู้ที่สนใจสามารถเสนอราคาเมื่อคิดคำนวณจากการที่รัฐบาลรับจำนำไว้เฉลี่ยที่ 12,000 บาท/ตัน เมื่อแปรสภาพเป็นข้าวสารตามระยะเวลาสีแปรไม่เกิน 15 วันมายังกระทรวงพาณิชย์ได้ เพราะหลักเกณฑ์ข้าวเปลือกนาปีจะลดปัญหาการเก็บรักษาหรือการดูแลต่างๆ ซึ่งมีต้นทุนเฉลี่ย 758 บาท/ตัน
"หากเอกชนเสนอราคาเฉลี่ย โดยเฉพาะข้าวเปลือกนาปีที่ 13,000 บาท/ตัน ก็สามารถรับข้าวไปส่งออกได้ทันที ทำให้ภาครัฐขาดทุนค่อนข้างน้อยและไม่ต้องเก็บข้าวไว้นาน เชื่อว่า กขช.จะเห็นชอบในเรื่องนี้" นายไชยา กล่าว