ยูเรกาเฮดจ์ (Eurekahedge Pte) คาดการณ์ว่า กลุ่มกองทุนเฮดจ์ฟันด์ทั่วโลกอาจมีตัวเลขขาดทุนสูงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนต.ค. เนื่องจากนักลงทุนต่างพากันไถ่ถอนเงินออกจากกองทุนเป็นจำนวนมาก
โดยบริษัทจัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ที่สุดในเอเชียอย่าง Sparx Group Co รายงานมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การดูแลในเดือนต.ค.ทั้งสิ้น 8.391 แสนล้านเยน (8.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดที่ 2 ล้านล้านเยนในเดือนส.ค.2549
ด้านบริษัทแมน กรุ๊ป ของลอนดอน ซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ที่สุดรายงานมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการที่ 7.03 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 30 ก.ย. ซึ่งขณะนี้ได้ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงต้นเดือนพ.ย.
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี Eurekahedge Hedge Fund Index ซึ่งเป็นดัชนีบ่งชี้กิจกรรมการลงทุนของกองทุนเฮดจ์ฟันด์กว่า 2,000 แห่งทั่วโลกร่วงลงเฉลี่ยที่ 3.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบกับดัชนี MSCI World Index ที่ทรุดตัวลง 19% เมื่อเดือนที่ผ่านมา
ตลาดประสบภาวะขาดทุนมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) และการถอนเงินของนักลงทุนส่งผลกระทบต่อเม็ดเงินในกองทุนเฮดจ์ฟันด์จำนวน 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในปีนี้ ดัชนีชี้วัดกิจกรรมการลงทุนของกองทุนทั่วโลกร่วงลง 11% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ร่วงลงแรงที่สุดนับตั้งแต่ Eurekahedge เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2543 "การที่นักลงทุนแห่ไถ่ถอนเงินออกจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์จะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องถึง 6 เดือนเป็นอย่างต่ำ" ประธานของบริษัทวิจัยกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Kusano Global Frontier ในโตเกียวกล่าว "แม้ว่าขณะนี้จะมีบางกองทุนที่ระงับการไถ่ถอนเงิน แต่ท้ายที่สุดแล้วกองทุนกลุ่มนี้ต้องปล่อยให้มีการระบายเงินออกมา ซึ่งจะทำให้นักลงทุนทยอยไถ่ถอนเงินตามมาอีกหลายระลอก"