คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) มติเห็นชอบในหลักการของร่างสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มเติม(Supplemental Agreement) เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของระบบไฟฟ้าปริมาณซื้อขายสูงสุด 300 เมกะวัตต์ โดยราคารับซื้อจากการไฟฟ้าของมาเลเซีย(TENAGA NASIONAL BERHAD:TNB) จะมีราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตหน่วยสุดท้ายในช่วงที่ระบบไฟฟ้ามีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง (Peak Period) และกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินหรือกรณีโรงไฟฟ้าในภาคใต้ เช่น โรงไฟฟ้าขนอม และโรงไฟฟ้าจะนะ มีการหยุดซ่อมบำรุง ทำให้ กฟผ.สามารถหลีกเลี่ยงการเดินเครื่องโรงไฟฟ้ากระบี่ด้วยน้ำมันเตา ซึ่งมีต้นทุนการผลิตที่สูงมากในระดับ 5.34 บาท/หน่วย
ทั้งนี้ การรับซื้อไฟฟ้าดังกล่าวจะพิจารณารับซื้อในกรณีที่ระบบมีความต้องการและราคารับซื้อถูกกว่าราคาที่ กฟผ.ผลิตได้เอง
สำหรับสาระสำคัญของสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มเติมนั้นยังคงหลักการเดิม คือ ซื้อขายแบบ Non-Firm(จะซื้อขายกันต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายมีความพร้อมซื้อและพร้อมขาย) โดยมีการปรับปรุงเงื่อนไขด้านราคาและทบทวนอัตราค่าไฟฟ้าเป็นรายปี และอัตราค่าไฟฟ้าที่ระบุไว้ในสัญญาหรืออัตราค่าไฟฟ้าที่จะตกลงกันใหม่ต้องมีผลบังคับใช้อย่างน้อย 1 ปี