นายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หลังจากหารือกับผู้เกี่ยวข้องถึงการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต แล้วได้ข้อสรุปว่าจะใช้รางขนาด 1 เมตร(METER GAUGE) ตามเดิม โดยไม่มีการปรับเปลี่ยนไปใช้รางขนาด 1.435 เมตร(STANDARD GAUGE) เนื่องจากต้องการให้ขบวนรถไฟชานเมืองและขบวนรถไฟขนส่งสินค้าที่ใช้รางขนาด 1 เมตรสามารถใช้รางร่วมกันต่อไปได้ และจะเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางของประชาชนที่สามารถเดินทางมาถึงสถานีกลางบางซื่อได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟที่นอกเมือง
"หากรถไฟฟ้าสายสีแดงเป็นรางขนาด 1.435 เมตรจะเกิดปัญหาเพราะขบวนรถไฟขนคนและสินค้าที่ใช้ในปัจจุบันจะไม่สามารถใช้รางขนาดดังกล่าวได้ ต้องให้ผู้โดยสารและสินค้าจอดที่สถานีชานเมืองแทนการเข้ามาส่งคนและสินค้าที่สถานีกลางบางซื่อ จะเกิดความไม่สะดวก หรือหากต้องการให้รถไฟชานเมืองเข้ามาส่งผู้โดยสารที่สถานีกลางบางซื่อก็ต้องเพิ่มรางจากเดิมที่จะใช้เพียง 3 ราง เป็น 5 ราง ซึ่งจะทำให้มีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างเพิ่มขึ้น"นายสุรชัย กล่าว
สาเหตุที่กระทรวงคมนาคมต้องศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับขนาดรางโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) รวมทั้งฝ่ายนโยบายมีข้อสงสัยถึงรูปแบบการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงว่าทำไมไม่ก่อสร้างเป็นรางขนาด 1.435 เมตร ซึ่งในอนาคตประเทศไทยมีแผนจะพัฒนาขนาดรางจากเดิม 1 เมตร เป็นขนาด 1.435 เมตรทั่วประเทศ และหลังจากนี้จะนำเสนอข้อสรุปข้างต้นต่อฝ่ายนโยบายต่อไป
นายสุรชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาการออกแบบขนาดรางโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงได้คำนึงถึงปัจจัยหลัก 4 ประการ คือ แก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนน, ขนส่งคนจากชานเมืองเข้าสู่กลางเมือง, ขนส่งสินค้าไปยังภาคตะวันออกเพื่อไปยังท่าเรือแหลมฉบัง และยกรางรถไฟชานเมืองจากระดับดินเป็นลอยฟ้า