ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนแห่กันเข้าเทรดในตลาดหุ้นนิวยอร์กหลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นแข็งแกร่งก่อนการประชุม G20 ที่กรุงวอชิงตันวันเสาร์นี้ อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ยังคงแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์และเยน หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นและอังกฤษเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะถดถอย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 97.550 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 94.860 เยน/ดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับเงินฟรังค์ที่ระดับ 1.1842 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1868 ฟรังค์/ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.2825 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.2469 ดอลลาร์/ยูโร เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.4847 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4931 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 0.5748 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับของวันพุธที่ 0.5589 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.6674 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.6375 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
เดวิด กิลมอร์ นักวิเคราะห์จาก Foreign Exchange Analytics กล่าวว่า "ภาวะการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กผันผวนมากเนื่องจากนักลงทุนรับเอาปัจจัยต่างๆไว้มากมาย รวมถึงข่าวที่เล็ดรอดออกมาก่อนการประชุม G20 วันเสาร์นี้, ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ และความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ภาวะการซื้อขายในปัจจุบันยากที่จะระบุตายตัวว่าสิ่งใดเป็นปัจจัยชี้ขาดทิศทางของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ"
นักลงทุนจับตาดู การประชุมสุดยอดผู้นำเศรษฐกิจโลก หรือ G20 ที่กรุงวอชิงตันในวันเสาร์นี้ โดยนายแดน ไพรซ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช แห่งสหรัฐ คาดการณ์ว่าที่ประชุมจะเห็นชอบให้ใช้มาตรการเฉพาะเจาะจงในการรับมือกับภาวะผันผวนในตลาดการเงินและยับยั้งเศรษฐกิจโลกถดถอย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ย.ลดลงสู่ระดับ 5.65 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากการนำเข้าของสหรัฐร่วงลงเป็นประวัติการณ์ 5.6% และการส่งออกลดลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2544 ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานพุ่งขึ้นสู่ 516,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 พ.ย.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่สัปดาห์หลังเกิดเหตุวินาศกรรมสหรัฐเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2544
ค่าเงินปอนด์ยังคงร่วงลง หลังจากธนาคารกลางอังกฤษส่งสัญญาณว่าอาจต้องลดดอกเบี้ยอีก โดยระบุว่าการลดดอกเบี้ยเป็นเรื่องจำเป็นและหากไม่มีการลดดอกเบี้ยลงอีก เศรษฐกิจอังกฤษอาจจะหดตัวลงเกือบตลอดทั้งปีหน้า และอัตราเงินเฟ้อจะชะลอตัวต่ำกว่าระดับ 1% ซึ่งเป็นอัตราขั้นต่ำที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้