เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์และยูโรในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้านี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าที่ประชุม G20 จะยังไม่ได้ข้อสรุปถึงแนวทางในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ เงินเยนยังแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการประชุมดังกล่าว ซึ่งความเคลื่อนไหวเช่นนี้ได้กระตุ้นให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์คาดว่า เงินดอลลาร์อาจอ่อนค่าลงเป็นวันที่สองเมื่อเทียบกับเงินยูโรก่อนที่ทางการสหรัฐจะรายงานยอดค้าปลีกซึ่งคาดว่าอาจร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2544
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 09.53 น. ตามเวลาท้องถิ่น เงินเยนแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 97.10 ต่อดอลลาร์ จากระดับ 97.68 ต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเงินเยนอาจอ่อนค่าลงสู่ระดับ 95.50 ต่อดอลลาร์ นอกจากนี้ เงินเยนแข็งค่าขึ้นเทียบสกุลเงินยูโรที่ระดับ 123.99 ต่อยูโรจาก 124.78 ต่อยูโร
"นักลงทุนกำลังมองความเคลื่อนไหวของเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ" ทาเคชิ โทคิตะ นักวิเคราะห์จาก Mizuho Corporate Bank กล่าว "ไม่มีใครรู้ว่าข้อสรุปในที่ประชุม G-20 จะออกมาเช่นไร แต่ที่แน่ๆนักลงทุนจะไม่สนใจเงินดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินยูโรเนื่องปัจจัยลบรอบด้านที่มาจากปัญหาเศรษฐกิจโลก"
ทั้งนี้ ผู้นำจากกลุ่มประเทศ G-20 จะเข้าร่วมประชุมกันที่กรุงวอชิงตันเป็นเวลา 2 วันเพื่อหารือถึงแนวทางการแก้วิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เป็นผลจากวิกฤตตลาดสินเชื่อและตลาดซับไพรม์
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ของสหรัฐได้เรียกร้องให้ผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของโลกให้ความสำคัญกับเงินทุนในตลาดเสรี โดยการหารือครั้งนี้จะกล่าวถึงข้อเสนอที่ให้มีการลดเงินเดือนผู้บริหารและควบคุมกองทุนเฮดจ์ฟันด์เพื่อกระตุ้นสัดส่วนเงินทุนในธนาคาร