สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกมาเตือนว่า การที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ชะลอการลงทุนด้านโครงการพัฒนาแหล่งน้ำมันแห่งใหม่ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกซบเซานั้น อาจนำไปสู่การเกิดวิกฤตผลผลิตด้านพลังงานในอีก 20 ปีข้างหน้า
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานคำกล่าวของนายโนบูโอะ ทานากะ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของ IEA ว่า "โครงการพัฒนาแหล่งน้ำมันหลายแห่งจะล่าช้าออกไปจากปัญหาเศรษฐกิจ และสิ่งที่ผมเป็นกังวลมากที่สุดคือปัญหาขาดแคลนน้ำมันในอีกหลายปีข้างหน้าเมื่อเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์น้ำมันฟื้นตัวดีขึ้น" พร้อมกันนี้เขายังได้แนะให้บรรดาชาติสมาชิกโอเปคร่วมมือกับบริษัทน้ำมันรายใหญ่เพื่อลงทุนในโครงการพัฒนาบ่อน้ำมันแห่งใหม่ๆ
โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เตือนว่าสหรัฐ ญี่ปุ่น และยุโรปจะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งแรกในรอบกว่า 60 ปี ท่ามกลางวิกฤตการเงินที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่
ทั้งนี้ โอเปค ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมันกว่า 40% ในตลาดโลกจะเข้าร่วมประชุมกันที่กรุงไคโรในวันที่ 29 พ.ย.นี้ เพื่อหารือถึงการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน จากเดิมที่มีกำหนดเข้าประชุมกันในวันที่ 17 ธ.ค.ที่ประเทศแอลจีเรีย ขณะที่เมื่อวานนี้ ราคาน้ำมันดิบทรุดฮวบลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 21 เดือน และจนถึงขณะนี้ราคาน้ำมันดำดิ่งลงไปแล้ว 60% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา