พล ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.อุตสาหกรรม กล่าวยอมรับว่า วิกฤติเศรษฐกิจโลกจะส่งผลกระทบต่อศก.ไทยในปีหน้าอย่างชัดเจนมากขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน เกิดปัญหาว่างงานเพิ่มขึ้น ดังนั้น ก.อุตสาหกรรมได้ประสานงานกับ ก.แรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งหาแนวทางรองรับผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมทั้งเฝ้าระวังกลุ่มโรงงานที่อาจจะมีการปิดตัว เพื่อให้การช่วยเหลือกลุ่มผู้ประกอบการและกลุ่มแรงงานได้ทันท่วงที เช่น การปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ประกอบการ
"จากการหารือร่วมกับอุตสาหกรรมจังหวัด ก็เริ่มเห็นสัญญาณการทยอยปิดตัวของกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้นแล้ว... ก.ได้ร่วมกับก.แรงงาน หาแนวทางรองรับการว่างงงาน มีการเฝ้าระวังโรงงานที่อาจจะปิดตัว" พล ต.อ.ประชา กล่าว
รมว..อุตสาหกรรม กล่าวอีกว่า ได้เสนอขอจัดสรรงบประมาณ จากงบกลางปี 1 แสนล้านบาทเพื่อใช้ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาภาคอุตสาหกรรมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกครั้ง โดยจะเสนอให้นายโอฬาร พิจารณาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า จากเดิมที่คาดว่าจะใช้วงเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท
พล ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.อุตสาหกรรม กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้ทีมศก.ของรัฐบาลไม่ได้มีปัญหาความขัดแย้งกัน แต่การที่นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี กับ นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์นั้น อาจเป็นเรื่องของความคิดเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องการทำงานมากกว่า ไม่ได้เป็นการแตกแยก แต่ป็นเรื่องปกติของการทำงาน นอกจากนี้ การที่นาย โอฬาร เป็นบุคคลที่มีลักษณะฟังเหตุฟังผล จึงเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวน่าจะหารือพูดคุยแบบประนีประนอมได้
อย่างไรก็ตาม รมว.อุตสาหกรรม กล่าวปฎิเสธเรื่องการปรับครม.ของนายกรัฐมนตรี หลังเสร็จสิ้นงานพระราชพิธี โดยกล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว