ผู้เชี่ยวชาญชี้ "เฮนรี พอลสัน"อำลาเก้าอี้รมว.คลังไม่สวย หลังพลิกลิ้นไม่อุ้มสถาบันการเงิน

ข่าวต่างประเทศ Friday November 14, 2008 12:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐ ซึ่งเป็นอดีตซีอีโอวาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่อย่างโกลด์แมน แซคส์ที่ได้รับเงินเดือนและโบนัสสูงสุดในตลาดวอลล์สตรีท ที่กำลังถูกจับตาดูมากที่สุดในเวลานี้ หลังจากเขาออกแถลงการณ์กลับลำไม่ใช้เงินงบประมาณจากมาตรการ 7 แสนล้านดอลลาร์เข้าซื้อหนี้เสียของสถาบันการเงินที่ประสบปัญหา แต่กลับมุ่งเน้นเรื่องการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค

พอลสันชี้แจงว่า การที่รัฐบาลสหรัฐไม่ใช้เงินจำนวนดังกล่าวเข้าไปซื้อสินทรัพย์ทางการเงินที่มีปัญหามูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ของสถาบันการเงินหลายแห่ง เพราะเห็นว่าขั้นตอนดังกล่าวต้องใช้เวลาในการดำเนินการมากเกินไป แต่รัฐบาลจะมุ่งเน้นใช้จ่ายงบประมาณเบื้องต้นมูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์ ในการกระตุ้นสินเชื่อบุคคล และยืนยันว่ารัฐบาลยังไม่มีแผนจะจัดตั้งกองทุนเข้ามาจัดการกับสินทรัพย์ที่มีปัญหาของอุตสาหกรรมรถยนต์ (TARP) เพราะเห็นว่าอุตสาหกรรมรถยนต์สามารถหาทางออกในการแก้ไขวิกฤติทางการเงินของตัวเองได้ โดยไม่ต้องใช้วิธีอัดฉีดเงิน

ปีเตอร์ วอลลิสัน อดีตผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ประจำกระทรวงการคลังสหรัฐในสมัยที่โรนัลด์ เรแกน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันผันตัวเองไปเป็นที่ปรึกษาสถาบัน American Enterprise Institute ในกรุงวอชิงตัน กล่าวว่า พอลสันเหลือเวลาในการทำหน้านี้รมว.คลังสหรัฐเพียง 2 เดือนก่อนจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง แต่ความน่าเชื่อถือของพอลสันถดถอยลงนับตั้งแต่เกิดภาวะปั่นป่วนในตลาดการเงิน และล่าสุดพอลสันสร้างความตื่นตระหนกให้กับตลาดการเงินทั่วโลกด้วยการกลับลำไม่ใช้เงินงบประมาณ 7 แสนล้านดอลลาร์เข้าซื้อหนี้เสียของสถาบันการเงินที่ประสบปัญหา

"พอลสันอำลาชีวิตราชการแบบไม่สวยนัก ซึ่งไม่ต่างอะไรกับอดีตคณะทำงานของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ที่ลงจามตำแหน่งแบบมีชนักติดหลัง รวมถึงพลเอกโคลิน เพาเวลล์ อดีตรมว.ต่างประเทศ และนายพอล โอนีล อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการคลัง ภาวะการซื้อขายในตลาดเงินและตลาดทุนช่วงที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในตัวพอลสันอย่างมาก โดยเฉพาะการตัดสินใจครั้งล่าสุดที่ไม่ใช้งบประมาณช่วยเหลือสถาบันการเงินนั้น ถือเป็น 'ระเบิดเวลา' ลูกล่าสุดที่พอลสันวางไว้ก่อนอำลาตำแหน่ง" วอลลิสันกล่าว

ขณะที่ บิล เฟล็คเคนสทีน ประธานบริษัท Fleckenstein Capital Inc และเป็นผู้เขียนหนังสือ "Greenspan's Bubbles" กล่าวว่า "ท่าทีของพอลสันสะท้อนให้เห็นเขาเป็นคนประเภท"หลักปักขี้เลน" และขาดจุดยืนอย่างชัดเจน พอลสันเองที่เป็นคนเสนอมาตรการช่วยเหลือสถาบันการเงินและดิ้นรนผลักดันให้ผ่านมติทั้งสภาคองเกรสและวุฒิสภา แต่เขาก็เป็นคนประกาศกลับลำเสียเอง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังจะทำอะไรต่อไป"

สตีเฟ่น สแตนลีย์ หัวหน้านักวิเคราะห์จาก RBS Greenwich Capital กล่าวว่า "พอลสันอำลาเก้าอี้รมว.คลังแบบ 'ถูกผู้คนกร่นด่าตามหลัง' ที่สำคัญเขาไม่ยอมรับด้วยซ้ำว่าตนเองทำผิด หากยังจำกันได้ พอลสันก้าวเข้ามารับตำแหน่งรมว.คลังในเดือนก.ค.ปี 2547 ในช่วงเวลานั้นดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี และโกลด์แมน แซคส์ ขายหุ้นออกมามูลค่า 149 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งทำให้พอลสันซึ่งเป็นอดีตซีอีโอได้เงินเข้ากระเป๋าไปถึง 485 ล้านดอลลาร์ แต่ขณะนี้ดาวโจนส์ร่วงลงไปกว่า 1 ใน 3 ของมูลค่าตลาดในปีนั้น"

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ในระหว่างการแถลงข่าวกลับลำไม่ใช้งบประมาณ 7 แสนล้านดอลลาร์เข้าซื้อหนี้เสียของสถาบันการเงินเมื่อวานนี้นั้น พอลสันกล่าวว่า "ผมไม่รู้สึกกดดันอะไร เพราะว่าผมไม่คิดว่ารัฐบาลทำผิดที่ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงแผนการใช้งบประมาณ 7 แสนล้านดอลลาร์ ข้อเท็จจริงและสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปแล้ว และผมไม่คิดว่ารัฐบาลทำผิด"



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ