นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) เปิดเผยว่า คณะทำงานพิจารณาโครงการได้อนุมัติให้การส่งเสริมลงทุนแก่บริษัท เอเอ รับเบอร์ จำกัด เพื่อขยายกิจการผลิตยางผสม(COMPOUNDED RUBBER) มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 19 ล้านบาท กำลังการผลิตประมาณ 26,000 ตัน/ปี โดยจะนำยางและสารเคมีเข้าเครื่องผสม เพื่อบด อัด และย่อยยางให้เป็นเนื้อเดียวกันก่อนอัดเป็นก้อนเพื่อจำหน่าย มีตลาดส่งออกสำคัญในไต้หวันและจีน
"กิจการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนนี้เป็นกิจการที่บีโอไอให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะเน้นเรื่องการส่งเสริมและวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพสูงขึ้นตามนโยบายปีแห่งการลงทุนไทย และยังช่วยเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราระบายผลผลิตที่กำลังตกต่ำออกสู่ตลาดจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทำให้ความต้องการใช้ยางพาราลดลงโดยเฉพาะตลาดหลักอย่างอุตสาหกรรมยานยนต์" เลขาธิการบีโอไอ กล่าว
โครงการนี้ใช้วัตถุดิบในประเทศ ได้แก่ เศษยาง ยางแท่ง มูลค่าประมาณ 1,441 ล้านบาท/ปี และใช้วัตถุดิบต่างประเทศ ได้แก่ คาร์บอนแบล็คและสารเคมี มูลค่าประมาณ 56.8 ล้านบาท/ปี โดยยางแผ่น เศษยาง และยางแท่งที่นำมาใช้ในโครงการนี้ได้มาจากโรงงานยางใน จ.ยะลา และสงขลา
ปัจจุบัน ราคายางแผ่นดิบ ณ ตลาดกลางซื้อขายยางพารา จ.สุราษฎร์ธานี อยู่ที่ 58.48 บาท/กิโลกรัม ลดลงจาก 80.05 บาท/กิโลกรัมในช่วงต้นปี 51
ทั้งนี้บริษัท เอเอ รับเบอร์ จำกัด เคยได้รับการส่งเสริมลงทุนจากบีโอไอไปแล้วรวม 2 โครงการ เมื่อ 7 เม.ย.38 และ 28 เม.ย.42 เพื่อผลิตยางแท่งและยางแผ่น แต่ประสบปัญหาขาดแคลนคนงานกรีดยางจึงทำให้น้ำยางสดไม่เพียงพอ จึงเปลี่ยนการผลิตมาเป็นยางผสมแทน