นายสมชัย สัจจพงษ์ ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ฐานะการคลังเบื้องต้นตามระบบ Government Finance Statistics: GFS)ดุลการคลังภาครัฐบาลปีงบประมาณ 2551 เกินดุล 66,356 ล้านบาท คิดเป็น 0.7%ของ GDP โดยเป็นการเกินดุลของรัฐบาล 69,352 ล้านบาท ขณะที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นขาดดุล 2,996 ล้านบาท
รัฐบาลมีรายได้ 1.622 ล้านล้านบาท มีรายจ่ายเงินงบประมาณ 1.656 ล้านล้านบาท ทำให้ดุลการคลังขาดดุลงบประมาณ 34,448 ล้านบาท และยังมีรายจ่ายเงินกู้ต่างประเทศอีก 1,424 ล้านบาท แต่ดุลเงินนอกงบประมาณเกินดุล 105,225 ล้านบาท ทำให้ดุลการคลังรัฐบาลยังเกินดุล 69,352 ล้านบาท และดุลการคลังอปท.ขาดดุล 2,996 ล้านบาท ขณะที่ดุลการคลังเบื้องต้นของรัฐบาลอยู่ที่ 176,256 ล้านบาท
นายสมชัย กล่าวว่า ในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2551 ดุลการคลังภาครัฐบาลเกินดุล 67,543 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.7 ของ GDP เป็นผลจากการเกินดุลของรัฐบาลเป็นสาเหตุหลัก เนื่องจากเป็นช่วงของการชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลรอบครึ่งปีบัญชี 2551 โดยเป็นการเกินดุลของรัฐบาล 83,107 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.9 ของ GDP ในขณะที่ อปท.ขาดดุล 15,564 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.2 ของ GDP
ด้านรายได้ รัฐบาลมีรายได้ 449,399 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.8 ของ GDP สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 56,405 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.4 โดยภาษีที่จัดเก็บได้เพิ่มขึ้นในอัตราสูงที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีสุรา และภาษีเงินได้นิติบุคคล
ด้านรายจ่าย รัฐบาลมีการใช้จ่ายทั้งสิ้น 430,402 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4.6 ของ GDP ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 6,139 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.4 ส่งผลให้ดุลงบประมาณในช่วงไตรมาสที่ 4 เกินดุล 18,997 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 0.2 ของ GDP
ในไตรมาสนี้ รัฐบาลมีรายจ่ายเงินกู้ต่างประเทศ 784 ล้านบาท มีดุลนอกงบประมาณเกินดุล 64,894 ล้านบาท ทำให้ดุลการคลังของรัฐบาลเกินดุล 83,107 ล้านบาท แต่ดุลการคลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปm.) ขาดดุล 2,996 ล้านบาท ขณะที่ดุลการคลังเบื้องต้นของรัฐบาลจะอยู่ที่ 122,328 ล้านบาท