นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.คลัง กล่าวภายหลังการประชุมเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจว่า ในปี 51 ได้มอบนโยบายให้รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุนให้ได้ 72% ของงบลงทุนทั้งหมด 329,034 ล้านบาท โดยขณะนี้มีรัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุนแล้ว 100,633 ล้านบาท คิดเป็น 56.46% ของงบลงทุน
ขณะที่ช่วง 3 เดือนที่เหลือ คาดว่าจะมีรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ที่มีโครงการลงทุนสำคัญ มูลค่ารวมกว่า 80,000 ล้านบาท เบิกจ่ายงบลงทุน คิดเป็นเฉลี่ยเดือนละ 25,000-30,000 ล้านบาท
สำหรับรัฐวิสาหกิจที่มีการเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมได้มากที่สุด 5 อันดับแรก คือ บมจ.ปตท. (PTT) บมจ.การบินไทย (THAI) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และบมจ.ทีโอที
นอกจากนี้ รมว.คลัง ยังได้เร่งรัดให้รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุนในปี 52 ให้ได้ถึง 90% ของงบลงทุนทั้งหมด 3 แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการลงทุนภาครัฐ และทำให้เกิดการจ้างงานด้วย
ด้านนายอารีพงศ์ ภู่ชะอุ่ม ผอ.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า สาเหตุที่ปี 51 รัฐวิสาหกิจมีการเบิกจ่ายงบลงทุนได้ล่าช้า เนื่องมาจากบางส่วนมีการตั้งงบลงทุนในส่วนของการก่อสร้างรถไฟฟ้า แต่ทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ยังไม่มีความพร้อมในการดำเนินโครงการ
แต่ในปี 52 เชื่อว่ารัฐวิสาหกิจทั้ง 2 แห่ง มีความพร้อมมาที่จะเดินหน้าการก่อสร้างแล้ว ซึ่งจะช่วยให้การเบิกจ่ายงบลงทุนได้เร็วขึ้นและเป็นไปตามเป้าหมาย ขณะที่รัฐบาลเองได้เร่งรัดให้รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายงบลงทุนให้เร็วขึ้นอีก 1 แสนล้านบาท
"ในปี 51 สภาพัฒน์ ได้ตั้งงบลงทุนให้รัฐวิสาหกิจ แต่เนื่องจากยังไม่มีความพร้อม เช่นการก่อสร้างรถไฟฟ้า ทำให้เบิกจ่ายได้ล่าช้า แต่ปี 52 การก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายเส้นทางพร้อมแล้ว เชื่อว่าจะทำให้เบิกจ่ายได้ตามเป้าหมาย" นายอารีพงศ์ กล่าว