นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการกำหนดนโยบายอาหารสัตว์สำหรับปี 52 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายอาหารมีมติจะลดภาษีนำเข้ากากถั่วเหลืองตามข้อเสนอของผู้ใช้ เช่น สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย เพื่อลดต้นทุนการผลิตให้กับผู้ใช้ แต่คงไม่ลดลงเหลือ 0% ตามข้อเสนอจากปัจจุบันที่เก็บในอัตรา 4%
แต่ส่วนจะปรับลดลงเป็นอัตราใดนั้นกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลังจะไปหาข้อสรุปร่วมกันอีกครั้ง เบื้องต้นกระทรวงพาณิชย์ต้องการให้ลดลงเหลือ 2% เพื่อไม่ให้กระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของกระทรวงการคลัง เพราะหากลดลงเหลือ 0% จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ทันทีปีละ 1,000 ล้านบาท จากปริมาณนำเข้าปีละ 2 ล้านตัน
เมื่อได้ข้อสรุปแล้วกระทรวงพาณิชย์จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายอาหารอีกครั้งในวันที่ 17 พ.ย. ก่อนขอความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้าในวันที่ 18 พ.ย.
"การลดภาษี 2% จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ 500 ล้านบาท แต่ก็ทำให้ต้นทุนเลี้ยงสัตว์และราคาเนื้อสัตว์ลดลงได้ในอนาคต โดยเฉพาะต้นทุนเลี้ยงสุกรจะถูกลงอีกตัวละ 28-30 บาท และหลังจาก ครม.เห็นชอบ จะบังคับใช้เพียงปีเดียว เริ่มวันที่ 1 ม.ค.-31 ธ.ค.52 เพราะเป็นนโยบายที่ต้องพิจารณาปีต่อปี" นายไชยา กล่าว
สำหรับการแก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำนั้น นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและจะขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า โดยแนวทางของกระทรวงพาณิชย์ที่นำเสนอคือให้รับซื้อปาล์มสดในราคาก.ก.ละ 3.50 บาท จากต้นทุนผลิตเฉลี่ย ก.ก.ละ 3.20 บาท ให้รับซื้อ 150,000 ก.ก. ระยะเวลา 3 เดือน โดยคาดว่าจะขอใช้งบประมาณ 3.3 พันล้านบาท จากงบกลางปี 52 ที่เพิ่มขึ้น 1 แสนล้านบาท