เจพีมอร์แกน แอนด์ เชส โคคาดการณ์ว่า เงินปอนด์อาจร่วงลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 23 ปีที่ 13% ไปอยู่ในระดับ 1.28 ดอลลาร์/ปอนด์ และอ่อนค่าลง 8% เมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ระดับ 90 เพนซ์/ยูโรในช่วงต้นปีหน้า เนื่องจากยอดบัญชีกู้ยืมเงินต่างประเทศของภาคธุรกิจธนาคารหดตัวลง ขณะที่เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของอังกฤษพอใจกับสถานการณ์การอ่อนค่าของเงินปอนด์
เจพีมอร์แกนเปิดเผยว่า ตัวเลขในบัญชีกู้ยืมเงินต่างประเทศของธนาคารในอังกฤษ ณ วันที่ 30 มิ.ย. มีจำนวนทั้งสิ้น 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนเท่ากับ 276% ของตัวเลขผลผลิตภายในประเทศ (GDP)
"อังกฤษอาจไม่เผชิญความเลวร้ายเหมือนกับไอซ์แลนด์ แต่เศรษฐกิจจะทรุดหนักในระยะหนึ่ง" นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกนกล่าว "เรามองว่าความเคลื่อนไหวของเงินปอนด์อาจสะท้อนความเสี่ยงที่ทำให้ภาคธุรกิจธนาคารซบเซาต่อเนื่อง"
ทั้งนี้ ธนาคารกลางอังกฤษอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 2% ในการประชุมต้นเดือนหน้า หลังจากที่ได้หั่นดอกเบี้ยลง 1.50% มาอยู่ที่ระดับ 3% เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันธนาคารคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะหดตัวลง 1.8% ในไตรมาสแรกของปีหน้า โดยนายเมอร์วิน คิง ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษกล่าวว่า "เราเตรียมพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยหากเห็นว่ามีความจำเป็น"
ด้านนักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2552 เงินปอนด์จะเทรดกันที่ระดับ 1.56 ดอลลาร์/ปอนด์ และเคลื่อนไหวที่ 80 เพนซ์/ยูโร