ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบยูโร หลังสหรัฐเผยข้อมูลการผลิตอ่อนแอ,ซิตี้กรุ๊ปลดพนักงาน

ข่าวต่างประเทศ Tuesday November 18, 2008 07:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ปอนด์ และยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) เนื่องจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐและการประกาศลดพนักงานของซิตี้กรุ๊ป ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ ผลการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ก็ไม่ได้ช่วยให้บรรยากาศการซื้อขายคึกคักขึ้นด้วย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับ 96.340 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 96.920 เยน/ดอลลาร์ แต่พุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินฟรังค์ที่ 1.1974 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1950 ฟรังค์/ดอลลาร์

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.2646 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.2631 ดอลลาร์/ยูโร ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.4999 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4751 ดอลลาร์/ปอนด์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.6491 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันศุกร์ที่ 0.6486 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลงจากระดับ 0.5507 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5526 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากรายงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์คที่ระบุว่า ผลสำรวจภาคการผลิตในนิวยอร์คร่วงลงในเดือนพ.ย.สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากวิกฤติสินเชื่อได้ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

ซิตี้กรุ๊ปเตรียมปลดพนักงานทั่วโลกอีก 53,000 คน ซึ่งเป็นการลดจำนวนพนักงานครั้งรุนแรงที่สุดหลังจากบริษัทได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินทั่วโลกและขาดทุนอย่างหนักติดต่อกัน 4 ไตรมาส นอกจากนี้ ซิตี้กรุ๊ปยังวางแผนที่จะปรับลดค่าใช้จ่ายลงมากถึง 20%

ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีพ.ศ.2550 ซิตี้กรุ๊ปมีพนักงานทั้งหมด 375,000 คน แต่เมื่อปลายเดือนกันยายนได้มีการปรับลดพนักงานอีกครั้งเหลือ 352,000 คน และคำแถลงปรับลดพนักงานเพิ่มเติมคราวนี้จะทำให้ซิตี้กรุ๊ปเหลือพนักงานราว 300,000 คน

ที่ประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 มีมติร่วมมือกันกระตุ้นเศรษฐกิจโลกให้ขยายตัวขึ้นและปกป้องเศรษฐกิจไม่ให้เข้าสู่ภาวะถดถอย พร้อมกับเสนอให้ใช้มาตรการแก้ไขวิกฤตการณ์ด้านการเงินที่กำลังลุกลามไปทั่วโลก อย่างไรก็ตาม กลุ่ม G20 จะดำเนินการอย่างเฉพาะเจาะจงภายในวันที่ 31 มี.ค.ปีพ.ศ.2552 ก่อนการประชุมสุดยอดครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นช่วงสิ้นเดือนเม.ย.

คาร์ล เว็นเบิร์ก หัวหน้านักวิเคราะห์จาก High Frequency Economics กล่าวว่า "มาตรการที่กลุ่ม G20 ร่วมกับออกแถลงการณ์ร่วมกันนั้นยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ลุกลามในขณะนี้ได้ และเราคาดว่าตลาดการเงินจะไม่ขานรับแถลงการดังกล่าวเพราะกลุ่ม G20 ไม่ได้ให้คำมั่นสัญญาที่ชัดเจนในหลายๆเรื่อง รวมถึงการผลักดันให้มีการลดอัตราดอกเบี้ยและนโยบายภาษี"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ