โฟล์คสวาเกน เอจี (Volkswagen AG) บริษัทรถยนต์ต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในตลาดจีนคาดว่า บริษัทจะเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากในปี 2552 ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และความวิตกกังวลในตลาดแรงงานที่ฉุดรั้งอุปสงค์ในตลาดรถยนต์ของจีนซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
"บริษัทจะเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วง 6 เดือนแรกของปีหน้า โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรก" วินฟรายด์ วาห์แลนด์ ประธานโฟล์คสวาเกนในประเทศจีนกล่าว "สิ่งที่เราต้องทำในขณะนี้คือกระตุ้นความเชื่อมั่นของลูกค้าให้กลับมาลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์อีกครั้ง"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ยอดขายของโฟล์คสวาเกนในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดร่วงลง 4.2% ในไตรมาสสามจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและมาตรการจำกัดการขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนนในช่วงมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ซึ่งทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อรถยนต์ โดยยอดขายที่ชะลอตัวในประเทศจีนอาจส่งผลกระทบต่อค่ายรถยนต์เยอรมนี, เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป และโตโยต้า มอเตอร์ส คอร์ป ที่กำลังมาแรงในตลาดเกิดใหม่ ซึ่งบริษัทหวังที่จะใช้ชดเชยอุปสงค์ที่ตกต่ำลงในสหรัฐ ญี่ปุ่น และยุโรป
"เราหวังว่ายอดขายจะขยายตัว แต่หากสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ เราก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน" วาห์แลนด์กล่าว
อย่างไรก็ตาม โฟล์คสวาเกนไม่ได้คาดการณ์ถึงยอดขายในปีหน้า เนื่องจากมองว่ายังเร็วเกินไปที่จะฟันธงว่าบริษัทจะมียอดขายเท่าไหร่ หลังจากในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมียอดขายรถในประเทศจีนพุ่งขึ้น 13% และมีแผนที่จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่อีก 4 รุ่นในปีหน้าเพื่อกระตุ้นยอดขายมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะทุ่มเงินลงทุนในตลาดจีน 7 พันล้านยูโร (8.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายในสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ฮอนด้า มอเตอร์ โค คาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์ในจีนจะขยายตัวขึ้น 5% ในปีหน้า ขณะที่ยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น 11% ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ หลังจากที่ทะยานขึ้น 22% ในปี 2550