นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน มอบนโยบาย 3 รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ คือ บมจ.ปตท.(PTT), บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เร่งเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากแผนการลงทุนของภาคราชการรวมกับรัฐวิสาหกิจ 3 แห่ง ในช่วงปี 52-60 จะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านล้านบาท
เฉพาะในช่วงปี 52-54 มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 358,638 ล้านบาท โดยการลงทุนส่วนใหญ่เป็นโครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติ การก่อสร้างคลังรับก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) และการก่อสร้างโรงไฟฟ้าและระบบส่งไฟฟ้า ที่เหลือเป็นการลงทุนในด้านการดำเนินงานโครงการต่อเนื่องของหน่วยงานราชการ ทั้งนี้เป็นการลงทุนใหม่ของ ปตท.จำนวน 4 โครงการ ประมาณ 40,000 ล้านบาท และยังมีโครงการต่อเนื่องกว่า 50,000 ล้านบาท และ กฟผ.จำนวน 1.3 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ เม็ดเงินลงทุน 1.5 ล้านล้านบาท ยังไม่รวมการลงทุนทางด้านปิโตรเคมีที่ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการของ ปตท. และบริษัทในเครือ, กลุ่มซิเมนต์ไทย และเอกชนอื่นๆ
ด้าน นายไกรฤทธิ์ นิลคูหา รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การดำเนินงานในส่วนของภาคเอกชน ประกอบด้วย การลงทุนด้านการขุดเจาะสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ระหว่างปี 2552-2555 จะใช้เงินลงทุนประมาณ 770,000 ล้านบาท โดยเฉลี่ยลงทุนประมาณปีละ 1.5-1.6 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) และกลุ่มบริษัทเชฟรอน
ทั้งนี้ หากลงทุนตามแผนงานดังกล่าวก็จะสามารถเพิ่มการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยได้ประมาณ 3,700 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน จากปัจจุบันผลิตอยู่ในอัตรากว่า 3,000 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน
ขณะที่ นายวีระพล จิรประดิษฐ์กุล ผอ.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยว่า การลงทุนด้านไฟฟ้าในช่วงปี 52-60 ในส่วนของภาคเอกชนจะมีการลงทุนประมาณ 350,000 ล้านบาท เป็นการลงทุนของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่(ไอพีพี) จำนวน 4 โรง ขนาด 4,400 เมกะวัตต์ ประมาณ 1.62 แสนล้านบาท, โรงไฟฟ้าขนาดเล็ก(เอสพีพี) รวม 1,919 เมกะวัตต์ ลงทุนประมาณ 71,000ล้านบาท และโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมาก(วีเอสพีพี) รวม 940 เมกะวัตต์ เงินลงทุน ประมาณ 1.14 แสนล้านบาท ที่เหลือเป็นโครงการอื่นๆ
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ BCP กล่าวว่า การลงทุนของบริษัทในปี 52-54 จะมีการลงทุนทั้งหมด 6,000 ล้านบาท ประกอบด้วย การปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน(PQI)ที่มีมูลค่าโครงการประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ขณะนี้ก่อสร้างเสร็จไปแล้ว 98% คาดว่าในต้นเดือน ม.ค.จะนำน้ำมันเข้าระบบใหม่ได้
โครงการที่สองเป็นการก่อสร้างโรงงานไบโอดีเซล ขนาด 3 แสนลิตร มูลค่าลงทุน 1,000 ล้านบาท คาดว่าจะเสร็จกลางปีหน้า, การลงทุนต่อเนื่องในการปรับปรุงคุณภาพเบนซินให้ได้มาตรยูโร 4 ต่อเนื่องจากน้ำมันดีเซล ใช้เงินลงทุนประมาณ 2,400 ล้านบาท คาดเริ่มในปี 52 นอกจากนี้ยังมีโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการโรงผลิตเอทานอลครบวงจรมูลค่า 4,000 ล้านบาท คาดว่าจะลงทุนในอีก 3 ปีข้างหน้า