องค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) มองว่า แม้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงไตรมาสที่ 3 แต่มีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มจะฟื้นตัวได้รวดเร็วกว่าสหรัฐและยุโรป เนื่องจากประเทศตะวันตกกำลังเผชิญอยู่กับวิกฤตการเงินครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่
บลูมเบิร์กรายงานว่า การขยายตัวในระดับต่ำในช่วงเกือบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา รวมทั้งหนี้สินภาคครัวเรือนและธุรกิจที่ไม่ได้อยู่ในระดับสูง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจเอาไว้ได้ นอกจากนี้ ธนาคารของญี่ปุ่นยังมีเงินสดจำนวนมากและยังมีความสามารถในการปล่อยกู้ ขณะที่กลุ่มบริษัทผู้ส่งออกอย่างเช่น โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และภาคครัวเรือนก็มีเงินฝากสูงพอที่จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายได้ในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศซบเซาลง
มาร์ติน ชูลซ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของสถาบันวิจัยฟูจิตสึ กล่าวว่า เศรษฐกิจ บริษัทเอกชน และภาคครัวเรือนของญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน
OECD คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของญี่ปุ่นปีหน้านี้จะหดตัวลงเพียง 0.1% เมื่อเปรียบเทียบกับการหดตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่หดตัวลง 0.9% และกลุ่มประเทศยุโรปที่หดตัวลง 0.5% ขณะที่สหพันธ์อุตสาหกรรมของอังกฤษคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะอ่อนตัวลง 1.7%
ทั้งนี้ ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของญี่ปุ่นหดตัวลง 0.4% ต่อปี ซึ่งรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะหดตัวเพียง 0.1% และบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี เนื่องจากภาคเอกชนและภาคครัวเรือนลดการใช้จ่ายลง