นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)กล่าวว่า รัฐบาลควรจะเร่งดำเนินการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายกลางปีเพิ่ม 1 แสนล้านบาท เพื่อให้สามารถนำออกมาใช้ได้อย่างทันที เนื่องจากสถานการณ์การเมืองไม่แน่นอน โดยหากมีการเปลี่ยนรัฐบาลหรือปรับคณะรัฐมนตรีก็จะยิ่งทำให้เกิดความล่าช้า ซึ่งความเชื่อมั่นทางการเมืองจะเป็นตัวฉุดเศรษฐกิจและรัฐบาลที่ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ก็จะยิ่งทำให้มีอุปสรรคในการบริหารงาน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีเพียงข้อเสนอของหลายกระทรวงในการขอจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมกลางปีอีก 1 แสนล้านบาท แต่ยังไม่สามารถได้ข้อสรุปได้ โดยภาคเอกชนมีความเป็นห่วงในเรื่องของแรงงาน และปัญหาสภาพคล่องในปีหน้าที่อาจมีมากขึ้น
ทั้งนี้ ประธาน ส.อ.ท.ให้ความเห็นถึงผลการประชุมของผู้นำกลุ่มประเทศ จี-20 ว่าประเทศสหรัฐอเมริกาต้องการเพียงที่จะหาแนวร่วมกลุ่มประเทศที่พัฒนาและรักษาความสัมพันธ์ เนื่องจากผลที่ออกมาไม่ได้มีความข้อบังคับเพิ่มเติม เพียงแต่เป็นกรอบกว้าง ๆ ในการรับมือวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งกรอบการตกลงในการกีดกันทางการค้าที่ลดลงน่าจะส่งผลดีต่อการส่งออกของประเทศไทย
ส่วนเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่เข้าสู่ภาวะถดถอย นายสันติ เชื่อว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย เนื่องจากไทยมีสิทธิประโยชน์จากภาษีภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น(JTEPA) รวมทั้งอุตสาหกรรมอาหารและสิ่งทอยังขยายตัวตามความต้องการบริโภคของประเทศญี่ปุ่น