นายกฤษฎา เปี่ยมพงศ์สานต์ โฆษกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า(ก.ส.ล.) ที่มีนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้หารือถึงกรณีที่นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี มีแนวคิดที่จะโอนตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า(AFET) ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์ ไปอยู่กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)และมีข่าวว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้(19 พ.ย.)
ที่ประชุมระบุว่า ข่าวดังกล่าวยังไม่ชัดเจน อีกทั้งนายโอฬาร ยังไม่เคยหารือเรื่องนี้กับกระทรวงพาณิชย์ โดยนายกฤษฎา อ้างคำกล่าวของนายไชยาในที่ประชุมว่า ไม่ต้องการให้ตลาด AFET ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรและประกันความผันผวนด้านราคาให้กับเกษตรกรต้องกลายเป็นเวทีที่มีการประกอบธุรกิจแบบเก็งกำไรของภาคเอกชนรายใดรายหนึ่ง เพราะเกษตรกรจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
อีกทั้งปริมาณการซื้อขายในปัจจุบันที่มีประมาณปีละกว่า 100,000 สัญญาเท่านั้น จึงควรที่จะพัฒนาตลาดให้มีการซื้อขายมากขึ้น และเพิ่มประเภทของสินค้าที่จะซื้อขาย เช่น กากถั่วเหลือง พืชพลังงานทดแทน อย่างปาล์มน้ำมัน หรือสินค้าอื่นๆ เช่น น้ำตาลทราย ซึ่งที่ประชุมในวันนี้ได้มอบหมายให้ตลาด AFET กลับไปศึกษาความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มชนิดสินค้าที่จะซื้อขายให้มากขึ้น
"เรายังไม่ชัดเจนว่าข่าวที่เป็นข่าวเป็นจริงหรือไม่ เพราะท่านรองนายกฯ ยังไม่เคยมาหารือกับกระทรวงพาณิชย์ แต่ท่านอาจจะมองว่าตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้ามีศักยภาพที่จะขยายได้อีก จึงอยากให้ไปอยู่กับตลาดหลักทรัพย์ก็ได้"นายกฤษฎา กล่าว
ทั้งนี้ นายไชยา บ่นว่าน้อยใจนายโอฬาร ที่ไม่เคยมาปรึกษาเรื่องดังกล่าวเลย แล้วจู่ๆ ก็ปรากฏข่าวดังกล่าวออกมา ซึ่งหลังจากการประชุมเสร็จสิ้น นายไชยา รีบออกจากกระทรวงพาณิชย์เพราะไม่อยากให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว และเกรงว่าหากให้สัมภาษณ์ในความเห็นที่ขัดแย้งกันจะเกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีกับคณะรัฐมนตรี