ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบสกุลเงินหลักๆ หลังนลท.แห่ซื้อดอลล์เลี่ยงความเสี่ยง

ข่าวต่างประเทศ Wednesday November 19, 2008 07:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 พ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐทำให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์เพราะมองว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย ขณะที่ค่าเงินเยน ปอนด์ และยูโร ร่วงลงหลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจในประเทศเหล่านี้เริ่มหดตัวลงและมีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับ 96.910 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 96.360 เยน/ดอลลาร์ และแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.2030 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1976 ฟรังค์/ดอลลาร์

ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.2619 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.2646 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์ร่วงลงแตระดับ 1.4963 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.5001 ดอลลาร์/ปอนด์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.6522 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันจันทร์ที่ 0.6494 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 0.5522 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5507 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ไมเคิล วูลฟอล์ค นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ อเมริกา กล่าวว่า "ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาลงทำให้นักลงทุนมองว่าการเข้าซื้อดอลลาร์สหรัฐเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยและมีความเสี่ยงค่อนข้างน้อย ความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ และนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย เช่นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากการที่ เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวต่อสภาคองเกรสว่า การที่มีแรงซื้อเข้าหนุนสกุลเงินดอลลาร์เป็นจำนวนมากบ่งชี้ว่า ดอลลาร์ยังคงเป็นสกุลเงินหลักในฐานะสกุลเงินที่ใช้เป็นทุนสำรองทั่วโลก"

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค.ร่วงลงรุนแรงเป็นประวัติการณ์ถึง 2.8% ในเดือนต.ค.เนื่องจากราคาพลังงานลดลง ขณะที่ดัชนี PPI พื้นฐานที่ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน ขยับขึ้น 0.4%

นอกจากนี้ ABC News เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 16 พ.ย.ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดระดับใหม่ที่ -52 จุด จากระดับ -50 จุดในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น

ส่วนค่าเงินเยนร่วงลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของญี่ปุ่นหดตัวลง 0.4% ต่อปี ซึ่งรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะหดตัวเพียง 0.1% และบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี เนื่องจากภาคเอกชนและภาคครัวเรือนลดการใช้จ่ายลง

ชัค บัทเลอร์ ประธานบริษัท เอเวอร์แบงก์ เวิลด์ มาร์เกตส์ แสดงความเห็นว่า หากสภาคองเกรสอนุมัติมาตรการช่วยเหลือผู้ผลิตรถยนต์ ก็อาจทำให้ดอลลาร์ร่วงลง แต่ถึงกระนั้นแนวโน้มของมาตรการดังกล่าวยังคงไม่แน่นอน นับตั้งแต่เฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐระบุว่ารัฐบาลไม่มีแผนจัดตั้งกองทุนที่จะเข้ามาบริหารสินทรัพย์ที่มีปัญหาของอุตสาหกรรมรถยนต์ (TARP)

บารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวว่า "รัฐบาลจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศ ทั้งในด้านการบริหารจัดการ แรงงาน และสถาบันการเงินที่จะปล่อยกู้ เพื่อผลักดันให้อุตสาหกรรมรถยนต์ฟื้นตัวขึ้นอย่างยั่งยืน โดยแนะนำให้ช่วยเหลือในรูปของการให้เงินกู้ยืมเฉพาะกาล (Bridge Loan) เพราะปล่อยให้ปัญหาในอุตสาหกรรมรถยนต์เรื้องรังต่อไป ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่างเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) คงไม่รอดพ้นที่จะประสบภาวะล้มละลาย"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ