กลุ่มบริษัทผลิตรถยนต์ของจีนได้ออกมาเรียกร้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากรัฐบาล และขอให้รัฐลดภาษีการขายเพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมรถยนต์จีนรอดพ้นจากวิกฤตการณ์การเงินที่ฉุดรั้งความต้องการรถยนต์ให้ทรุดตัวลงด้วย
นายเจิ้ง ฉินหง กรรมการผู้จัดการบริษัท กวางโจว ออโต้โมบาย กรุ๊ป ซึ่งเป็นพันธมิตรกับโตโยต้า มอเตอร์ และฮอนด้า มอเตอร์ กล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่งาน "กวางโจว ออโต้ โชว์" ว่า "สถานการณ์ในอุตสาหกรรมรถยนต์ของจีนเข้าขั้นวิกฤตแล้ว เราคาดหวังว่ารัฐบาลจะใช้มาตรการกระตุ้นความต้องการให้สูงขึ้น"
ความต้องการรถยนต์ที่ลดน้อยลงและการแข่งขันในตลาดโลกที่รุนแรงขึ้นเป็นเหตุให้ยอดขายรถยนต์ของบริษัท เซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสทรี คอร์ป (SAIC) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของจีน ทรุดตัวลง 77% ในปีนี้ โดยสถานการณ์ในอุตสาหกรรมรถยนต์จีนในขณะนี้ไม่แตกต่างจากอุตสาหกรรมรถยนต์ในสหรัฐและยุโรปที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงส่งผลให้ยอดขายของค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ทรุดตัวลงในปีนี้
จาง จิน นักวิเคราะห์จากบริษัท Guotai Junan Securities Co ในกรุงปักกิ่งกล่าวว่า "อุตสาหกรรมรถยนต์จีนจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลจึงจะสามารถอยู่รอดได้ แต่เท่าที่เห็นในเวลานี้คือรัฐบาลจีนยังไม่มีมาตรการกระตุ้นความต้องการรถยนต์ ซึ่งบริษัทรถยนต์ของจีนคงต้องอดทนเดินหน้าเรียกร้องรัฐบาลในเรื่องนี้ต่อไป"
นายเฉิน เจียงเกา รองผู้อำนวยการฝ่ายประสานงานด้านอุตสาหกรรม ในสังกัดคณะกรรมาธิการด้านการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาษีการขายรถยนต์ในจีนอยู่ในระดับสูงถึง 50% แต่รัฐบาลกำลังพิจารณาปรับลดภาษีการขายรถยนต์รุ่นประหยัดพลังงานเพื่อกระตุ้นความต้องการภายในประเทศ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน