นักวิเคราะห์คาดดัชนี CPI เดือนต.ค.สหรัฐร่วง 0.8% ส่งสัญญาณศก.สหรัฐอาจเผชิญเงินฝืด

ข่าวต่างประเทศ Wednesday November 19, 2008 13:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค.อาจร่วงลง 0.8% ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบ 59 ปี หลังจากดัชนีย่ำฐานทรงตัวในเดอนพ.ย. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหาและพลังงาน อาจเพิ่มขึ้น 0.1%

ไนเจล กอลท์ หัวหน้านักวิเคราะห์จาก IHS Global Insight กล่าวว่า เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเสี่ยงต่อการถดถอยอาจทำให้ระบบเศรษฐกิจสหรัฐต้องเผชิญปัญหาเงินฝืด หรือ ภาวะที่ดัชนี CPI ร่วงลงยืดเยื้อยาวนาน ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้จะสร้างแรงกดดันอย่างมากให้กับนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และบารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนี CPI เดือนต.ค.ในคืนนี้ ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูข้อมูลดังกล่าวอย่างใกล้ชิดเพราะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ

ส่วนเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค.ร่วงลงรุนแรงเป็นประวัติการณ์ถึง 2.8% ในเดือนต.ค.เนื่องจากราคาพลังงานลดลง ขณะที่ดัชนี PPI พื้นฐานที่ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน ขยับขึ้น 0.4%

แม็กซ์เวลล์ คลาร์ก นักวิเคราะห์จาก IDEAglobal ในนิวยอร์กกล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในประเทศจีนและอินเดีย จะทำให้ราคาสินค้าปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง หรือราคาสินค้าที่ตกต่ำยาวนานซึ่งเข้ามาแทนที่ภาวะเงินเฟ้อกำลังกลายเป็นปัญหาสำหรับเฟดและธนาคารกลางทั่วโลก

"ปัญหาเงินเฟ้อไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่เฟดต้องหามาตรการรับมือในขณะนี้ แต่สิ่งเดียวที่เฟดวิตกกังวลคือความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ" คลาร์กกล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ