สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือนต.ค.51 อยู่ที่ 75.5 ลดลงจากเดือน ก.ย.ซึ่งอยู่ที่ 81.1 โดยมีผลมาจากภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับปัญหาการเมืองภายในประเทศ ซึ่งภาคเอกชนได้เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 52 เพื่อช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นที่ลดลงในเดือน ต.ค.51 เป็นเพราะปัญหาเศรษฐกิจโลกถดถอย และวิกฤตการเมืองภายในประเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศที่ชะลอตัว โดยตลาดต่างประเทศได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์การเงินโลกที่เริ่มส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจจริงของโลกที่เข้าสู่ภาวะชะลอตัว
ส่วนตลาดในประเทศได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอตัวมากขึ้น รวมทั้งปัญหาทางด้านการเมืองที่เป็นตัวการสำคัญทำให้เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังคงยืดเยื้อและไม่มีทางออก
ทั้งนี้ภาคเอกชนมีความเห็นสอดคล้องกันว่าภาครัฐควรแก้ปัญหาทางการเมืองอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคและนักลงทุน ควรเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 52 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องให้กับภาคอุตสาหกรรม ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ภายในประเทศ
รวมทั้งช่วยสนับสนุนหาตลาดใหม่ๆ ที่ยังมีกำลังซื้อให้กับภาคอุตสาหกรรมส่งออก เพื่อทดแทนตลาดหลักที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินสหรัฐฯ และดูแลเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนไม่ให้มีความผันผวน โดยคงระดับไว้ที่ 33-35 บาท/ดอลลาร์ เพื่อช่วยขีดความสามารถทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมการส่งออกไทย