นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขบรูไนและไต้หวันออกประกาศใช้มาตรการตรวจสารเมลามีนในการนำเข้าสินค้านมและผลิตภัณฑ์จากไทยเข้มงวดมากขึ้น โดยไต้หวันอ้างข่าวจากทางการไทยที่ประกาศว่าพบสารเมลามีนปนเปื้อนในนมข้นจืดในปริมาณสูง ขณะที่บรูไนแจ้งว่าได้ตรวจพบสารเมลามีนปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์นมจากไทย 1 รายการ
สำหรับมาตรการที่ 2 ประเทศเตรียมจะใช้ คือ ไต้หวันจะสุ่มตรวจนมและผลิตภัณฑ์นมนำเข้าจากไทยในอัตราส่วน 20% (ทุก 5 ล็อต สุ่มตรวจ 1 ล็อต) ส่วนการนำเข้านมข้นจืดจากบริษัทของไทยที่ถูกประกาศพบสารเมลามีนปนเปื้อนนั้น จะต้องแนบเอกสารรับรองของทางการไทยว่าเป็นสินค้าที่นำเข้าปลอดเมลามีนและเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบปกติ หากไม่แนบเอกสารรับรองปลอดเมลามีนจะถูกตรวจสอบสินค้าทุกล็อต
ขณะที่บรูไน จะสำรวจตลาดในประเทศอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง รวมถึงกำหนดให้ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์นมจากไทยที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศตรวจพบสารเมลามีนปนเปื้อนไปแล้วยุติการนำเข้าและเรียกเก็บสินค้าจากชั้นวางจำหน่ายทันที นอกจากนี้จะขอความร่วมมือจากผู้บริโภคแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากพบผลิตภัณฑ์ที่สงสัยว่ามีการปนเปื้อนสารเมลามีน
นางอภิรดี กล่าวว่า ปัญหาสินค้าอาหารปนเปื้อนสารเมลามีนพบอย่างแพร่หลาย ทุกประเทศต้องเข้มงวดและมีมาตรการปกป้องผู้บริโภคภายในไม่ให้รับได้อันตราย ดังนั้น เพื่อป้องกันปัญหาสินค้าถูกกักกันหรือห้ามนำเข้า ผู้ส่งออกควรระมัดระวังและตรวจสอบสินค้าก่อนส่งออกไม่ให้มีสารเมลามีนปลอมปนหรือเกินกำหนดตามระเบียบของประเทศผู้นำเข้าอย่างเคร่งครัด" นางอภิรดี กล่าว
พร้อมกันนี้ กรมการค้าต่างประเทศจะติดตามและประชาสัมพันธ์การออกมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาสารเมลามีนปนเปื้อนในอาหารของประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเตือนให้ผู้ส่งออกได้รับทราบและทำตามระเบียบประเทศผู้นำเข้าต่อไป