ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ที่ร่วงลงอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้เกิดความกังววลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอยและอาจบีบใด้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาในอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐ
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับ 95.780 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 96.960 เยน/ดอลลาร์ แต่ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินฟรังค์ที่ 1.2118 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2016 ฟรังค์/ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.2519 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.2621 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.4969 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4967 ดอลลาร์/ปอนด์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.6371 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันอังคารที่ 0.6518 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลงแตะระดับ 0.5420 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5524 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีซีพีไอเดือนต.ค.ร่วงลง 1%ต่อเดือน ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการคำนวณดัชนีซีพีไอในปีพ.ศ.2490 และหากเมื่อเทียบเป็นรายปี ดัชนีซีพีไอเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 3.7%ต่อปี เมื่อเทียบกับเดือนต.ค.ปีพ.ศ.2550 และเป็นสถิติรายปีที่เพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 1 ปี
ส่วนดัชนีซีพีไอพื้นฐานซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน ลดลง 0.1% ต่อเดือน และเมื่อเทียบเป็นรายปี ดัชนีซีพีไอพื้นฐานปรับตัวขึ้น 2.2%ต่อปี เมื่อเทียบกับเดือนต.ค.ปีพ.ศ.2550
ไนเจล กอลท์ หัวหน้านักวิเคราะห์จาก IHS Global Insight กล่าวว่า เศรษฐกิจที่มีแนวโน้มเสี่ยงต่อการถดถอยอาจทำให้ระบบเศรษฐกิจสหรัฐต้องเผชิญปัญหาเงินฝืด หรือ ภาวะที่ดัชนี CPI ร่วงลงยืดเยื้อยาวนาน ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้จะสร้างแรงกดดันอย่างมากให้กับนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด และบารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนต.ค.ร่วงลง 4.5% แตะระดับ 0.791 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งลดลงจากเดือนก.ย.ที่ระดับ 0.828 ล้านยูนิต
ไมเคิล วูลฟอล์ค นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน คอร์ป กล่าวว่า "ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก หลังจากข้อมูลซีพีไอ และพีพีไอ ของสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าระบบเศรษฐกิจสหรัฐหมดยุคของเงินเฟ้อแล้ว และเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะเงินฝืด"
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) เดือนต.ค.ร่วงลงรุนแรงเป็นประวัติการณ์ถึง 2.8% ในเดือนต.ค.เนื่องจากราคาพลังงานลดลง ขณะที่ดัชนีพีพีไอ พื้นฐานที่ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน ขยับขึ้น 0.4%