เหตุการณ์การยึดเรือขนส่งน้ำมันของซาอุดิอาระเบียโดยโจรสลัดโซมาเลียอาจจะเป็นสถานการณ์ที่ผลักดันให้กองทัพเรือของประเทศตะวันตกลงมือแก้ปัญหาเพื่อจัดกับกลุ่มโจรสลัดเหล่านี้มากขึ้น
องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) กำลังประเมินสถานภาพการดำเนินงานของนาโต้ในภูมิภาค และอาจจะใช้ท่าทีที่แข็งกร้าวกว่าเดิมในการจัดการกับโจรสลัดเหล่านี้ โดยในช่วง 10 ที่ผ่านมา กองทัพเรืออินเดีย รัสเซีย อังกฤษ และเยอรมนีต้องสู้รบกับโจรสลัดเองในบริเวณอ่าวเอเดน
บลูมเบิร์กรายงานว่า ฮานส์ ทีโน แฮนเซน กรรมการผู้จัดการบริษัทที่ปรึกษาด้านความมั่นคงทางน้ำอย่างริสค์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า การจี้ปล้นเหล่านี้อาจจะทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป โดยหลายฝ่ายอาจจะออกมามีส่วนร่วมในการป้องกันปัญหามากขึ้น
เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา เรือซิริอุส สตาร์ ที่บรรทุกลูกเรือ 25 คน และน้ำมันดิบ 1 ล้านบาร์เรล มูลค่า 110 ล้านดอลลาร์ที่ถูกยึดไปในบริเวณนอกชายฝั่งของโซมาเลีย บริษัท เวลา อินเตอร์เนชั่นแรล มารีน ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของเรือสัญชาติซาอุดิอาระเบียอยู่ในระหว่างการเจรจาเรื่องค่าไถ่กับโจรสลัด
นาโต้เองมีกองเรือรบสำหรับต้านโจรสลัดอยู่ 4 ลำนอกน่านน้ำของโซมาเลีย อินเดีย มาเลเซีย และรัสเซียได้ส่งเรือรบของประเทศออกไปแล้ว รวมทั้งสหภาพยุโรป คาดว่า เรือรบเหล่านี้จะเดินทางถึงน่านน้ำดังกล่าวภายในเดือนหน้า ขณะที่กองกำลังร่วมของสหรัฐในอัฟกานิสถานก็มีกองกำลังอยู่ในบริเวณดังกล่าวเช่นกัน
คริสตอฟ พราซัค โฆษกของกองทัพฝรั่งเศส กล่าวว่า โดยรวมแล้วมีเรือรออยู่ประมาณ 15 ลำนอกชายฝั่งโซมาเลีย
ทางด้านกระทรวงกลาโหมของสหรัฐก็ได้เตือนบริษัทเดินเรือทั้งหลายให้เพิ่มความระมัดระวังในการรักษาความปลอดภัย โฆษกของกระทรวงกลาโหมได้ออกมาเตือนให้บริษัทต่างๆรับผิดชอบและพยายามหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ ด้วยการเฝ้าระวังและลงทุนเพื่อหาทางป้องกันไม่ให้โจรสลัดขึ้นเรือมาได้
ทั้งนี้ ทูตของสหรัฐกำลังประสานงานกับองค์การสหประชาชาติเพื่อขออนุมัติจากคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นให้มีการออกมติใหม่ เพื่อให้อำนาจในการปฏิบัติต้านโจรสลัดในน่านน้ำของโซมาเลีย หลังจากที่มติเก่าจะหมดอายุลงในวันที่ 2 ธ.ค.นี้