กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 15 พ.ย. พุ่งขึ้น 27,000 ราย แตะระดับ 542,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 515,000 ราย
ขณะที่ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานเฉลี่ย 4 สัปดาห์ พุ่งขึ้นแตะระดับ 506,500 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 25 ปี
ตัวเลขว่างงานที่พุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐตกอยู่ในสภาะตึงตัวอย่างหนัก เนื่องจากมีบริษัทหลายแห่งล้มละลายและลดการจ้างงาน ส่งผลให้จำนวนคนตกงานพุ่งสูงขึ้น
ก่อนหน้านี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราการว่างงานเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 0.4% แตะระดับ 6.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีครึ่ง และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) เดือนต.ค.ร่วงลงอีก 240,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันยาวนานถึง 10 เดือน
ขณะที่ ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนในสหรัฐลดการจ้างงานลงมากที่สุดในรอบ 6 ปีในเดือนต.ค. ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ระบุว่า ภาคบริการของสหรัฐหดตัวลง อย่างรุนแรงในเดือนต.ค.
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ตัวเลขชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานเดือนต.ค.ที่พุ่งขึ้นรุนแรงสุดในรอบ 16 ปี เป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลง 444.99 จุด หรือ 5.56% ปิดที่ 7,552.29 จุดเมื่อคืนนี้