ศูนย์วิจัยกสิกรฯ-โบรกฯคาด GDPไทย Q3/51 เหลือโต 4.3%ลงทุน-ท่องเที่ยววูบ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 21, 2008 11:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินภาพเศรษฐกิจไทย(GDP)ไตรมาส 3/51 ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์)จะแถลงในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ชะลอลงเหลือโต 4.3% จากความไม่แน่นอนทางการเมืองกระทบต่อการลงทุนภาครัฐและเอกชน การท่องเที่ยวทรุด ส่งผลต่อเนื่องไตรมาส 4/51 แต่เชื่อทั้งปี 51 GDP โตได้ 4.8% และจะชะลอเหลือ 2.5-3.5%ในปี 52

ด้าน บล.ซิมิโก้(ZMICO) มองแนวเดียวกัน แต่สวนทางสภาพัฒน์ที่คาด GDP ไตรมาส 3/51 โตไม่ถึง 4.5% กดดัน กนง.ลดดอกเบี้ย 0.25-0.50% ก่อนสิ้นปี

นางพิมลวรรณ มหัจฉริยวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดการณ์ว่า GDP ไตรมาส 3/51 จะอยู่ในระดับ 4.3% ชะลอตัวลงจาก 5.3% ในไตรมาส 2/51 โดยมีสาเหตุหลักจากการชะลอตัวของการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองที่มีการออก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในช่วงดังกล่าว

"การลงทุนของเอกชนลดลงจากช่วงครึ่งปีแรก จากปัจจัยความไม่เชื่อมั่นทางการเมืองที่เห็นสัญญาณได้ในช่วงต้น ก.ย. ขณะที่การลงทุนภาครัฐยังไม่เห็นโครงการใหม่ๆ เข้ามา ช่วงนี้(ก.ย.) การท่องเที่ยวก็ประสบปัญหา ยอดนักท่องเที่ยวลดลงจากปัญหาการเมืองเช่นกัน" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวกับ "อินโฟเควสท์"

ส่วนแนวโน้ม GDP ไตรมาส 4/51 จะยิ่งเห็นสัญญาณที่ชะลอตัวลงแรงมากขึ้นคาดว่าจะอยู่ที่ 3.5% ส่งผลให้ทั้งปีนี้คาดว่า GDP จะขยายตัวราว 4.8% ซึ่งการชะลอตัวของ GDP จะได้เห็นต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสแรกของปี 52

ปัจจัยที่น่ากังวลซึ่งจะมีผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 52 คือผลกระทบที่มาจากวิกฤติการเงินโลก และเศรษฐกิจโลกที่ส่งสัญญาณถดถอยโดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งอาจมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจติดลบ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญและเริ่มสะท้อนมาถึงภาคการส่งออกของไทยที่หลายอุตสาหกรรมมียอดคำสั่งซื้อชะลอตัวลง

"ภาคส่งออกเริ่มสะท้อนให้เห็นแล้ว ว่าคำสั่งซื้อที่เข้ามาในหลายอุตสาหกรรมลดลงพอสมควร บางอุตสาหกรรมลดลง 30-40% ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมได้ปรับตัวรับสถานการณ์ด้วยการปรับลดพนักงาน กำลังการผลิต ซึ่งเป็นสัญญาณล่วงหน้าได้พอสมควรว่าการผลิต การส่งออก อย่างน้อยไปถึงช่วงไตรมาส 1/52 จะค่อนข้างมีปัญหา" นางพิมลวรรณ ระบุ

นางพิมลวรรณ ยังคาดว่า GDP ทั้งปี 52 จะเติบโตในช่วง 2.5-3.5% โดยแยกสถานการณ์ไว้ 2 กรณี กรณีแรกถ้าสถานการณ์ปกติก็คาดว่า GDP จะโตได้ 3.5% โดยปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ส่งสัญญาณถดถอยจะกระทบกับเศรษฐกิจไทยอย่างเห็นชัดเจนและรุนแรงมากขึ้นในช่วงไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ปี 52 และกว่าจะเห็นการฟื้นตัวคงเป็นช่วงครึ่งหลังของปี 52 ไปแล้ว

แต่ถ้าเป็นกรณีที่รุนแรงกว่านั้นก็คาดว่า GDP จะเติบโตได้ราว 2.5% โดยเศรษฐกิจโลกจะเผชิญกับปัญหาถดถอยและลุกลามมาถึงกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา

ขณะที่บทวิเคราะห์ของ บล.ซิมิโก้(ZIMICO) คาดว่า GDP ของไทยในไตรมาส 3/51 จะอยู่ในระดับที่ไม่เกิน 4.5% เนื่องจากสภาพัฒน์ได้ส่งสัญญาณนี้ผ่านการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ(กรอ.)ว่า GDP มีแนวโน้มที่ชะลอตัวชัดเจน

โดยราคาสินค้าเกษตรที่อยู่ในระดับสูงยังสนับสนุนการเติบโตของรายได้ภาคเกษตร แต่การส่งออกสุทธิลดลง การลงทุนชะลอตัว ภาคการท่องเที่ยวกระทบหนัก และการผลิตชะลอตัว ทั้งในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออก และอุตสาหกรรมที่จำหน่ายในประเทศมากกว่า 70%

เบื้องต้น สศช.คาดว่า GDP ไตรมาส 3/51 จะเติบโตใกล้เคียงกับไตรมาส 2/51 ที่ระดับ 5.3% ในขณะที่ บล.ซิมิโก้ เห็นว่าเป็นการมองโลกในแง่ดี เพราะเชื่อว่า GDP ไตรมาสดังกล่าวจะโตได้ไม่เกิน 4.5% นอกจากนี้ สศช.ยังยอมรับว่า GDP ไตรมาส 4/51 ยังชะลอตัว และอาจรุนแรงต่อเนื่องในปี 52 ด้วยผลกระทบจากการหดตัวของประเทศเศรษฐกิจหลัก

บล.ซิมิโก้ คาดว่า สภาพัฒน์คงจะปรับลดประมาณการณ์ GDP ปี 51 ลงจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 5.2-5.7% ซึ่งสอดคล้องกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่ส่งสัญญาณมาแล้วว่าจะปรับลดประมาณการเศรษฐกิจในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ต้นเดือน ธ.ค.นี้

ทั้งนี้ความเสี่ยงการชะลอตัวของเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับแรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลงมากตามการปรับตัวลงของราคาน้ำมัน รวมไปถึงแรงกดดันจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก ทำให้คาดว่า กนง.อาจจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25-0.50% ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีในเดือน ธ.ค.นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ