นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวว่า ทิศทางค่าเงินบาทในช่วงนี้ยังคงปรับตัวตามภูมิภาค โดยยังถือว่าค่าเงินบาทอ่อนค่าไม่มากนัก เนื่องจากยังมีเงินจากต่างประเทศไหลเข้ามาอยู่ ซึ่งธปม.จะดูแลค่าเงินบาทไปตามความเป็นจริง
นอกจากนี้ ธปท.จะมีการติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะประกาศในสัปดาห์หน้า เพื่อนำมาประเมินสถานการณ์ต่างๆ ทางเศรษฐกิจให้ชัดเจนมากขึ้น แต่ก็ไม่อยากให้ประชาชนกังวลมากจนเกินไป เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากปัจจัยภายนอกประเทศ ขณะที่พื้นฐานภายในประเทศยังแข็งแกร่ง
ส่วนการที่ภาคธุรกิจขาดสภาพคล่องจนอาจทำให้ต้องปลดคนงานนั้น นางธาริษา กล่าวว่า ธปท.ยังคงเติมสภาพคล่องเข้าสู่ระบบผ่านธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันยังคงมีเงินหมุนเวียนถึง 30,000 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถใช้ได้ถึงปี 53-54
แต่กรณีที่กระทรวงการคลังต้องการให้ธปท.ปล่อยกู้ซอฟท์โลนนั้น ที่ผ่านมา ธปท.ได้ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความภายใต้ พ.ร.บ.ธปท.ฉบับใหม่แล้วว่า ธปท.ไม่สามารถปล่อยซอฟท์โลนได้ ซึ่ง รมว.คลังได้ส่งให้กฤษฎีกาตีความอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวคณะกรรมการธปท.ก็คงต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะสามารถปล่อยซอฟท์โลนได้หรือไม่