เจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือ จีเอ็ม บริษัทรถยนต์รายใหญ่สุดของสหรัฐที่กำลังจะหมดสภาพคล่อง กำลังหาทางเจรจาเพื่อลดหนี้สินและออกกฎสหภาพแรงงานใหม่ ด้วยความหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐในการออกเงินกู้เพื่ออุ้มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังเผชิญกับผลกระทบจากเศรษฐกิจถดถอยอย่างหนัก
จีเอ็มอาจจะขอให้มีการชะลอการจ่ายเงินกองทุนสวัสดิภาพพนักงานที่เกษียณแล้วของสหภาพมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์ออกไป และการทำข้อตกลงกับ GMAC LLC เพื่อพิสูจนให้เห็นว่า บริษัทสามารถเอาตัวรอดและจ่ายหนี้ให้กับรัฐบาลได้
บลูมเบิร์กรายงานว่า ริค วาโกเนอร์ ซีอีโอของจีเอ็ม ซึ่งมีเวลาจนถึงขีดเส้นตายวันที่ 2 ธ.ค.ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้กำหนดไว้สำหรับการปรับปรุงการดำเนินงานภายในบริษัท ซึ่งเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่อาจจะนำไปสู่การได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเป็นเงินมูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสภาคองเกรสอาจจะลงคะแนนเสียงเรื่องมาตรการดังกล่าวในวันที่ 8 ธ.ค.นี้
แหล่งข่าวกล่าวว่า ผู้บริหารระดับผู้อำนวยการมีกำหนดการประชุมร่วมกันผ่านทางการประชุมทางไกลในวันนี้ วันที่ 26 และ 28 พ.ย. หลังจากนั้นจะมีการทบทวนแผนการปรับปรุงการดำเนินงานในวันที่ 1 ธ.ค. คาดว่าจีเอ็มจะจัดทำรายงานความหยาว 10-12 หน้าเพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมสภาคองเกรสในวันที่ 5 ธ.ค. พร้อมกับรายงานที่มีข้อมูลเบื้องหลังความยาว 80 หน้าประกอบ
นอกจากจะต้องชนะใจสภาคองเกรสแล้ว วาโกเนอร์ยังมีภารกิจที่จะต้องเกลี้ยกล่อมเจ้าหนี้ให้ไฟเขียวแผนการลดหนี้สินของจีเอ็ม ตลอดจนสหภาพแรงงานให้แก้สัญญาแรงงานประจำปี 2550 ให้ได้อีกด้วย ซึ่งข้อตกลงเกี่ยวกับหนี้สินและสหภาพไม่น่าจะทำได้สำเร็จภายในวันที่ 2 ธ.ค.
ปัจจุบัน จีเอ็มมีหนี้สินอยู่ 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์ และจะต้องลดหนี้ดังกล่าวลงให้มากที่สุด แม้ว่าจะได้รับเงินกู้จากรัฐบาลมุลค่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ นักวิเคราะห์มองว่า หนี้สินที่เพิ่มขึ้นของจีเอ็มจะทำให้บริษัทมีความสามารถในการแข่งขันน้อยลง