ซิตี้กรุ๊ป และหน่วยงานด้านการเงินของสหรัฐ รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และกระทรวงการคลัง กำลังเจรจาร่วมกัน เพื่อจำกัดผลกระทบที่มีต่อกิจการซิตี้กรุ๊ป เนื่องจากมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีของซิตี้กรุ๊ปมีแนวโน้มร่วงลงกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากราคาหุ้นซิตี้กรุ๊ปดิ่งลงอย่างหนักเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจุดปะทุให้เกิดความวิตกกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับชะตากรรมของเศรษฐกิจสหรัฐ
รายงานระบุว่า เฟดและกระทรวงการคลังเริ่มเปิดฉากการเจรจากับซิตี้กรุ๊ปตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และคาดว่าการเจรจายังคงมีต่อเนื่องจนถึงวันนี้
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า คณะผู้บริหารระดับสูงของซิตี้กรุ๊ป กำลังพิจารณาขายกิจการบางส่วนหรือทั้งหมด หลังจากราคาหุ้นของธนาคารปรับตัวร่วงลงอย่างหนักอีกครั้งถึง 26% เมื่อวันพฤหัสบดี (20 พ.ย.) หลังจากทรุดลงไปแล้ว 23% เมื่อวันพุธ (19 พ.ย.) ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันมีกระแสคาดการณ์ในหมู่นักวิเคราะห์ว่า มอร์แกน สแตนเลย์ และโกลด์แมน แซคส์ อาจเสนอตัวผนวกกิจการกับซิตี้กรุ๊ป
ด้านนายวิกรม บัณฑิต ซีอีโอซิตี้กรุ๊ป และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆของซิตี้กรุ๊ป แสดงความวิตกกังวลที่ราคาหุ้นซิตี้กรุ๊ปดิ่งลงถึง 50% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้เจ้าชายอัลวาลีด บิน ทาลาล แห่งซาอุดิอาระเบีย มีแผนซื้อหุ้นซิตี้กรุ๊ปเพิ่มเป็น 5% ก็ตาม
นอกเหนือจากการพิจารณาขายกิจการบางส่วนให้แก่ธนาคารอื่นแล้ว ผู้บริหารซิตี้กรุ๊ปยังเล็งขายหน่วยงานต่างๆ ในเครือของธนาคารด้วย รวมถึง สมิธ บาร์นีย์ บริษัทโบรกเกอร์สำหรับลูกค้ารายย่อย, หน่วยงานด้านบัตรเครดิตทั่วโลก, หน่วยงานให้บริการด้านธุรกรรม ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่เติบโตรวดเร็วที่สุดและทำเงินให้ซิตี้กรุ๊ปมากที่สุด
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (17 พ.ย.) ซิตี้กรุ๊ปประกาศแผนปลดพนักงานทั่วโลก 52,000 คนในปีหน้า ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ธนาคารประกาศไว้เมื่อเดือนที่แล้วถึง 2 เท่า หลังจากได้รับผลกระทบจากการขาดทุนติดต่อกันหลายไตรมาสและเศรษฐกิจโลกที่ทรุดตัวลง
"ผมตัดสินใจลดพนักงานเพิ่มเติมก็เพราะมองว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ลูกค้าของซิตี้กรุ๊ปจะเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบาก ฝ่ายบริหารของซิตี้กรุ๊ปจะให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความเข้มแข็งขององค์กรเป็นหลัก เราเชื่อว่าแนวทางที่เราดำเนินการอยู่ทั้งหมดในเวลานี้จะเป็นประโยชน์ต่อซิตี้กรุ๊ป และเราคาดว่าต้นทุนการดำเนินงานของซิตี้กรุ๊ปจะลดลงสู่ระดับ 5.0 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีหน้า หรือประมาณ 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์/ไตรมาส" นายบัณฑิตกล่าวในหนังสือเวียนของซิตี้กรุ๊ป
หลังจากปรับลดพนักงานในครั้งนี้แล้ว ซิตี้กรุ๊ปจะมีพนักงานทั่วโลกเหลือเพียง 300,000 คน จากจำนวน 352,000 คน ณ วันที่ 30 ก.ย. ซึ่งการปรับลดพนักงานโดยรวมนั้นครอบคลุมถึงการลดพนักงาน 12,500 คนในแผนก pending sale ของซิตี้ โกลบอล เซอร์วิสเซส ซึ่งเป็นธุรกิจของซิตี้กรุ๊ปในอินเดีย และพนักงานในแผนก back- office service นอกจากนี้ ซิตี้กรุ๊ปเตรียมขายสาขาธนาคารย่อยในเยอรมนีซึ่งมีพนักงาน 5,600 คน
นับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ซิตี้กรุ๊ปได้ระดมทุนไปแล้วกว่า 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ด้วยการขายหุ้นและขายสินทรัพย์บางส่วน นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐยังเข้าอุ้มกิจการซิตี้กรุ๊ปเมื่อเดือนที่แล้ว ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องให้กับซิตี้กรุ๊ปและธนาคารพาณิชย์อีกหลายแห่ง ตามมาตรการฟื้นฟูภาคการเงินเบื้องต้นมูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน